เมื่อวันที่ 18 มี.ค. นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู แถลงผ่านโทรทัศน์ว่า การสู้รบในฉนวนกาซาจะดำเนินต่อไปจนกว่าจะบรรลุเป้าหมาย และการเจรจากับกลุ่มฮามาสจะเดินหน้าไปพร้อม ๆ กับปฏิบัติการทางทหาร
โดยนายกรัฐมนตรีเนทันยาฮูแสดงความไม่พอใจที่กลุ่มฮามาสยังคงปฏิเสธข้อเสนอหยุดยิง ทั้งที่อิสราเอลยอมขยายเวลาพักการโจมตีต่อไปอีกหลายสัปดาห์ โดยที่ในระหว่างนี้ยังไม่มีการปล่อยตัวประกันจากกลุ่มฮามาสเลยแม้แต่คนเดียว
เช่นเดียวกับ อิสราเอล แคตซ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอิสราเอล ที่เตือนกลุ่มฮามาสว่า ปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอลจะยกระดับความเข้มข้นขึ้นอีก หากยังไม่ปล่อยตัวประกันที่เหลือออกมา ซึ่งคาดว่ามีจำนวน 59 คน
โดยเมื่อวันที่ 18 มี.ค. สื่ออิสราเอลรายงานว่า กองทัพจะค่อย ๆ ยกระดับและขยายปฏิบัติการทางทหาร หากกลุ่มฮามาสยังไม่แสดงท่าทีประนีประนอมในการเจรจที่จะเกิดขึ้นตลอดไม่กี่วันข้างหน้านี้ ซึ่งการใช้กำลังภาคพื้นดินจะเป็นหนึ่งในทางเลือกสำหรับการสู้รบรอบใหม่ในฉนวนกาซา
ส่วนความคืบหน้าการเปิดฉากโจมตีฉนวนกาซาครั้งใหญ่ของกองทัพอิสราเอลซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 18 มี.ค. กระทรวงสาธารณสุขปาเลสไตน์ ที่อยู่ภายใต้การบริหารของกลุ่มฮามาส เปิดเผยว่า การโจมตีดังกล่าวส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 404 คนและบาดเจ็บ 562 คน
แถลงการณ์ของกลุ่มฮามาสยังระบุว่า สมาชิกระดับแกนนำอย่างน้อย 3 คนในฉนวนกาซา เสียชีวิตจากปฏิบัติการโจมตีทางทหารครั้งใหญ่ของอิสราเอล
ด้านปฏิกิริยาของนานาประเทศในโลกอาหรับเป็นไปในทางเดียวกัน คือประณามปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอล ไม่ว่าจะเป็นซาอุดีอาระเบีย อียิปต์ จอร์แดน และกาตาร์
นอกจากฉนวนกาซาที่กลับมาเผชิญการโจมตีระลอกใหม่ ยังมีเยเมน ที่ตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน โดยสำนักข่าวของกลุ่มฮูตีรายงานเมื่อวันที่ 18 มี.ค. ว่า กองทัพสหรัฐฯ ได้ทำการโจมตีเป็นจำนวนอย่างน้อย 10 ครั้งต่อเป้าหมายในกรุงซานาเมืองหลวง และเมืองท่าโฮเดา
โดยปฏิบัติการของสหรัฐฯต่อเป้าหมายกลุ่มฮูตีในเยเมนได้เริ่มต้นขึ้นอีกครั้งตั้งแต่ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาตามคำสั่งของประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ เพื่อตอบโต้ที่กลุ่มติดอาวุธดังกล่าวประกาศจะโจมตีระลอกใหม่ต่อเรือของชาติต่าง ๆ ในทะเลแดง เนื่องจากไม่พอใจที่อิสราเอลขัดขวางการส่งความ ช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าสู่ฉนวนกาซาระหว่างข้อตกลงหยุดยิงในเฟสแรกกับกลุ่มฮามาส