ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน! วินาที “แผ่นดินฉีกขาด” ระหว่างเหตุแผ่นดินไหวเมียนมา

เหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ขนาด 7.7 ในเมียนมาเมื่อวันที่ 28 มี.ค. แม้จะผ่านมาเกือบ 2 เดือนแล้ว แต่ความเสียหายที่เกิดขึ้นยังคงฝังลึกอยู่ในใจของผู้ได้รับผลกระทบจำนวนมาก

ล่าสุดมีการเปิดเผยภาพวิดีโอจากกล้องวงจรปิดของบริษัทแห่งหนึ่งในเมียนมา ที่สามารถบันทึกวินาทีที่พื้นดินฉีกขาดและแตกเป็นเสี่ยง ๆ จากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ได้ เป็นครั้งแรกที่มีภาพลักษณะนี้เผยแพร่ออกมา

FB/Htin Aung

 

 

 

หากคลืปบนหน้าเว็บไซต์ไม่ขึ้น สามารถชมได้ ที่นี่

โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า Htin Aung วิศวกรที่อยู่ในสิงคโปร์ เป็นผู้โพสต์วิดีโอดังกล่าวลงในเฟซบุ๊ก ระบุว่า ภาพมาจากฟาร์มโซลาร์เซลล์ Thapyawa ของ GP Energy Myanmar ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับเมือง Thazi ห่างจากมัณฑะเลย์ที่เป็นศูนย์กลางของแผ่นดินไหวไปทางใต้ประมาณ 145 กม.

ในวิดีโอความยาว 27 วินาที จะเริ่มสังเกตเห็นว่าเกิดแผ่นดินไหวในช่วงประมาณวินาทีที่ 9 และรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ จนประตูรั้วเลื่อนของบริษัทเปิดออก

ที่น่าตกใจคือในวินาทีที่ 14 ของคลิปวิดีโอ จะเห็นภาพแผ่นดินหน้าบริษัทเกิดรอยร้าวและฉีกขาดออกจากกัน!

จอห์น วิเดล นักแผ่นดินไหววิทยาจากมหาวิทยาลัยเซาเทิร์นแคลิฟอร์เนีย ดอร์นซิเฟ กล่าวว่า เขาไม่เคยเห็นวิดีโอที่แสดงให้เห็นการฉีกขาดของแผ่นดินเช่นนี้มาก่อน “มันน่ากังวลจริงๆ”

ด้าน ริก แอสเตอร์ นักธรณีฟิสิกส์จากมหาวิทยาลัยแห่งรัฐโคโลราโด เห็นด้วย “เท่าที่ผมรู้ นี่คือวิดีโอที่ดีที่สุดที่เรามีเกี่ยวกับการฉีกขาดของพื้นผิวดินจากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่”

แผ่นดินไหวที่เมียนมา 28 มี.ค. เกิดขึ้นบนรอยเลื่อนสะกาย ระหว่างแผ่นเปลือกโลกพม่าและซุนดา ซึ่งเป็นแผ่นเปลือกโลกขนาดเล็ก 2 แผ่น รอยเลื่อนนี้ตัดผ่านตอนกลางของเมียนมาเป็นเส้นตรงจากเหนือไปใต้ เป็นรอยเลื่อนแบบทรานส์ฟอร์ม เช่นเดียวกับรอยเลื่อนซานแอนเดรียสอันโด่งดังของแคลิฟอร์เนีย

แอสเตอร์บอกว่า “ส่วนของโลกที่เคลื่อนตัวจากด้านหนึ่งไปอีกด้านหนึ่งนั้นเคลื่อนตัวจากพื้นผิวลงไปที่ความลึกประมาณ 20 หรือ 30 กิโลเมตร”แอสเตอร์กล่าว และเสริมว่า ที่ด้านล่างนั้น เปลือกโลกยังคงเคลื่อนที่อยู่ แต่เปลือกโลกมีความยืดหยุ่นมากกว่า และเกิดการเปลี่ยนแปลงในลักษณะเสียรูปมากกว่าที่จะเป็นรอยแยก

แอสเตอร์บอกว่า วิดีโอนี้จะมีประโยชน์อย่างมากในการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับแผ่นดินไหวเพิ่มเติม “ไม่ต้องสงสัยเลยว่า นักแผ่นดินไหวจะพิจารณาวิดีโอนี้อย่างใกล้ชิด”

 

เรียบเรียงจาก Live Science