ญี่ปุ่นวางแผนรับสมัครนักล่าหมี หลังเหตุหมีทำร้ายคนเพิ่มสูงขึ้น

เผยแพร่ 31 ต.ค. 2568 ,14:59น.

รัฐบาลญี่ปุ่นเตรียมรับสมัคร “นักล่าหมี” เพิ่ม หลังเกิดเหตุหมีทำร้ายคนในประเทศเพิ่มสูงขึ้นจนตัวเลขผู้เสียชีวิตทุบสถิติ

เมื่อวันที่ 30 ต.ค. ที่ผ่านมา รัฐบาลญี่ปุ่นได้จัดการประชุมระดับสูงเพื่อแก้ไขปัญหาหมีทำร้ายคนเพิ่มขึ้น โดยเปิดเผยว่า วางแผนที่จะรับสมัครนักล่าเพื่อกำจัดหมี

กระทรวงสิ่งแวดล้อมญี่ปุ่นกล่าวว่า จะจัดสรรงบประมาณเพื่อจ้างนักล่าที่มีใบอนุญาตและบุคลากรอื่น ๆ เพื่อจัดการกับหมีที่เดินเตร่เข้าไปในเขตที่อยู่อาศัยและทำร้ายผู้คน

เฉพาะปี 2025 ญี่ปุ่นมีผู้เสียชีวิตจากการโจมตีของหมีแล้ว 12 ราย ซึ่งเป็นจำนวนสูงสุดที่ญี่ปุ่นเคยบันทึกไว้นับตั้งแต่เริ่มติดตามสถานการณ์ในช่วงทศวรรษ 2000

ญี่ปุ่นวางแผนรับสมัครนักล่าหมี หลังเหตุหมีทำร้ายคนเพิ่มสูงขึ้น — หมีสีน้ำตาลในญีปุ่น (แฟ้มภาพ)

ผู้เสียชีวิตที่เป็นข่าวดัง เช่น ชายส่งหนังสือพิมพ์ในฮอกไกโด และชายวัย 67 ปีที่ถูกพบเสียชีวิตในสวนในอิวาเตะ

ส่วนจำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บจากหมีมีมากกว่า 100 คนแล้วในปีนี้ เป็นชาวต่างชาติอย่างน้อย 1 คนที่ถูกหมีโจมตีใกล้ป้ายรถเมล์ในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม

ขณะที่เมื่อเร็ว ๆ นี้มีผู้พบเห็นหมีบุกเข้าไปในซูเปอร์มาร์เก็ตและโรงเรียนมัธยมปลาย

ในญี่ปุ่นมีหมีอยู่ 2 ประเภท ได้แก่ หมีดำญี่ปุ่น และหมีสีน้ำตาล ซึ่งโดยทั่วไปแล้วตัวใหญ่กว่าและดุร้ายกว่า

คอนเทนต์สำหรับคุณ By Blue Dot

เนื้อหาคัดสรรคุณภาพ

รัฐบาลญี่ปุ่นระบุว่า หมีเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อความปลอดภัยสาธารณะ โดยกำลังพิจารณาอนุญาตให้เจ้าหน้าที่ตำรวจยิงหมีด้วยปืนไรเฟิลได้ โดยเจ้าหน้าที่มีเวลาจนถึงกลางเดือน พ.ย. ในการสรุปมาตรการรับมือการโจมตีของหมีที่เพิ่มขึ้น

ปัญหานี้เด่นชัดเป็นพิเศษในจังหวัดอากิตะ ซึ่งเป็นที่ตั้งของเทือกเขาขนาดใหญ่ และเป็นจังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตจากหมีมากที่สุด

ทางการได้ประกาศในสัปดาห์นี้ว่า จะมีการส่งกองกำลังป้องกันตนเองญี่ปุ่นไปช่วยเหลือรัฐบาลอากิตะในการจับกุมและขับไล่หมี

อย่างไรก็ตาม ภายใต้กฎหมายปัจจุบัน กองกำลังป้องกันตนเองถูกสั่งห้ามไม่ให้ยิงหมี แต่สามารถช่วยเหลือนักล่าหมีในการดักจับและขนย้ายหมีที่ตายแล้วได้

ซูซูกิ เคนตะ ผู้ว่าราชการจังหวัดอากิตะ กล่าวว่า ผู้ที่จัดการกับปัญหาหมีในพื้นที่นั้นเหนื่อยล้ามาก เนื่องจากผู้ประกอบอาชีพนักล่าในญี่ปุ่นมีอายุมากขึ้น และจำนวนประชากรก็ลดลง สอดคล้องกับความนิยมในการล่าหมีเพื่อเอาขนและน้ำดีก็ลดน้อยลง

สิ่งนี้ทำให้ประชาชนมีความเสี่ยงต่อการถูกหมีโจมตีมากขึ้น เนื่องจากหมีเริ่มเดินเตร่เข้าไปในถิ่นที่อยู่อาศัยของมนุษย์มากขึ้น ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า การขาดแคลนพืชผลบางอย่างอันเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอาจทำให้หมีหิวโหยจนต้องเข้ามาในเขตที่อยู่อาศัยของผู้คน

ก่อนหน้านี้ในเดือน ก.ย. ญี่ปุ่นเพิ่งผ่อนคลายกฎหมายอาวุธปืนเพื่อให้ประชาชนทั่วไปสามารถยิงหมีในเขตที่อยู่อาศัยได้

เรียบเรียงจาก BBC