เปิดมาตราการ ช่วยเหลือ เกษตรกร  

หน่วยงานแรกคือ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. ซึ่งแยกย่อยได้เป็น 2 ส่วน คือ เกษตรกรลูกค้า ธ.ก.ส.ที่ขึ้นทะเบียนไว้แล้วสามารถขอรับบริการได้ตามปกติ ณ สาขาที่ขึ้นทะเบียนไว้ ซึ่งมีด้วยกัน 3 มาตรการ คือ

1.สินเชื่อเงินด่วน ให้กู้ได้รายละไม่เกิน 50,000 บาท อัตราดอกเบี้ย 7% ต่อปี เพื่อใช้ในการจัดหาปัจจัยการผลิตเพาะปลูกพืชระยะสั้น และทุนหมุนเวียนในการประกอบอาชีพ

2.สินเชื่อฟื้นฟูและพัฒนาคุณภาพชีวิตสำหรับเกษตรกรลูกค้าผู้ประสบภัยธรรมชาติหรือภัยพิบัติ ให้กู้ต่อรายสูงสุดไม่เกิน 500,000 บาท ดอกเบี้ย 5% ต่อปี ระยะเวลาชำระคืนเงินกู้ไม่เกิน 15 ปี

3.สินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายฉุกเฉิน กู้ได้รายละไม่เกิน 50,000 บาท สำหรับนำไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ป้องกันไม่ให้เป็นหนี้นอกระบบ

ส่วนมาตรการที่ ธ.ก.ส.ร่วมกับท้องถิ่นดำเนินการ
ได้แก่ โครงการพัฒนาแหล่งน้ำ สร้างฝายมีชีวิต เพื่อสนับสนุนการประกอบอาชีพภาคการเกษตร 6,100 ฝาย

ส่วนอีกหน่วยงาน คือ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
มีมาตรการเยียวยาความเสียหายแก่เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบ โดยกรมส่งเสริมการเกษตรเร่งสำรวจพื้นที่ที่ได้รับความเสียหาย

ด้านกรมการข้าวเตรียมเมล็ดพันธุ์ข้าว เพื่อแจกจ่ายให้กับเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบอย่างสิ้นเชิง ซึ่งมีเมล็ดพันธุ์ข้าวจ้าวสำรองไว้แล้วจำนวน 10,000 ตัน

นอกจากนี้จะพิจารณาให้เกษตรกรปลอดการชำระหนี้กับ ธ.ก.ส. เป็นระยะเวลา 3 ปี รวมถึงเกษตรกรที่ไม่ได้เข้าร่วมโครงการ สามารถขอขยายเวลาปรับตารางชำระหนี้ได้ 1 รอบปีการผลิต

ด้านกรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศวันนี้ (24 ก.ค.62) ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังคงมีฝนมากกว่าภาคอื่นๆ โดยจะมีฝน 40%ของพื้นที่ เนื่องจาก มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและประเทศไทยมีกำลังอ่อนลง ในขณะที่มีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมประเทศเวียดนามตอนบน

ส่วนภาคใต้ ภาคตะวันออก และภาคกลางมีปริมาณฝนน้อย 20%ของพื้นที่ เว้นกรุงเทพมหานครจะมีฝน 40% ของพื้นที่

 

มหาสารคาม ฝนทิ้งช่วงขาดแคลนน้ำ นาข้าวแห้งตาย

อุตุฯชี้ฝนตกทั่วประเทศวันนี้ –กทม.60%