ตร.แจ้ง"ฆ่าโดยเจตนา"ผญบ.ยิงพระ-ชาวบ้าน ฝ่าเคอร์ฟิวดับ

อัปเดตข่าว สถานการณ์ โควิด-19 ทั่วโลก ล่าสุด 7 เม.ย. 63

อัปเดตข่าวโควิด-19 (COVID-19) ล่าสุด 7 เม.ย. 63

ที่เกิดเหตุพบศพ พระชลธาร ถาวโร หัวหน้าสำนักสงฆ์เขาเพ-ลา ถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองเข้าที่ลำตัว นอนเสียชีวิตอยู่บริเวณสวนยางพารา ข้างทางสภาพนอนคว่ำหน้า และร่างของ นายชูรัตน์ คงคล้าย อายุ 47 ปี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนชนิดเดียวกัน สภาพนอนหงายอยู่บนท้ายรถกระบะมีมีดตกอยู่ข้างตัว 1 เล่ม และพบอาวุธปืนสั้นตกอยู่ในที่เกิดเหตุ 1 กระบอก เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบสวนทราบว่าก่อนเกิดเหตุนายมานพ โกปิน ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 9 ต.สมอทอง อ.ท่าชนะ ได้รับแจ้งว่ามีผู้ฝ่าฝืน พรก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน และไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ จึงแจ้งให้กำนันตำบลสมอทอง ก่อนจะแจ้งต่อให้ ปลัดอำเภอท่าชนะ และชุดเคลื่อนที่เร็วอำเภอท่าชนะ จำนวน 14 นาย เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ

ระหว่างเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบนายชูรัตน์ และพระชลธาร พร้อมรถกระบะ 3 คัน และอุปกรณ์จับผึ้งอีกจำนวนหนึ่ง จึงควบคุมตัวทั้งสองเอาไว้

ขณะนั้นนายปัญญาภรณ์ ปลัดอำเภอ ได้ออกมาโทรศัพท์เพื่อรายงานนายอำเภอท่าชนะ ก็มีเสียงปืนดังขึ้นบริเวณที่นายมานพควบคุมผู้กระทำความผิดอยู่ จึงรีบวิ่งไปดูพบว่านายชัยสิทธิ์ และพระชลธาร ถูกยิงด้วยอาวุธปืนเสียชีวิตทั้ง 2 คน

ผญบ.ยิงดับ “พระนักพัฒนา” พระชื่อดังสุราษฎร์ อ้างชักปืนสู้หลังถูกจับฝ่าฝืนเคอร์ฟิว

โดยนายมานพ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 9 คนยิง อ้างว่าระหว่างควบคุมตัวนั้นพระชลธารได้ชักปืนพกออกมาจากตัว และนายชัยสิทธิ์คว้ามีดออกมาเพื่อจะทำร้ายตนเองจึงได้ใช้อาวุธปืนลูกซองยิงใส่ทั้งคู่จนเสียชีวิต 

นายอำเภอท่าชนะ ตำรวจ และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง  ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุที่บริเวณถนนสายเลียบเขาเพ-ลา เพื่อสอบสวนและติดตามคดี  ในที่เกิดเหตุพบรอยเลือดและของกลางที่ใช้ในการจับผึ้ง

นายวิสูตร อินทรกำเนิด นายอำเภอท่าชนะ ระบุว่าเมื่อคืนที่ผ่านมาขณะรับสายโทรศัพท์ รับแจ้งรายงานว่าเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนายชูรัตน์  และพระชลธาร  พร้อมรถยนต์กระบะ 3 คัน และอุปกรณ์จับผึ้งอีกจำนวนหนึ่ง ส่วนคนอื่นๆอีก 3 คน ที่มาด้วยกันหลบหนีไปได้ จากนั้นก็ได้ยินเสียงปืนดัง 2-3 นัด จึงสั่งให้เจ้าหน้าที่ไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น ขณะนั้นคิดเพียงว่าคิดว่าใครทำปืนลั่น เท่านั้น

ด้านนายวิรัตน์ ขวัญใจ  พี่ชายพระชลธาร เล่าว่า พระชลธาร บวชมากว่า 10 พรรษา เป็นนักพัฒนา ค่อยช่วยเหลือชาวบ้านมาโดยตลอด และไม่เคยทราบว่าพระชลธาร มีอาวุธปืน

ก่อนหน้านี้พระชลธาร เคยเล่าให้ฟังว่า เคยมีคนมายิงปืนข่มขู่ เพื่อไล่ออกนอกพื้นที่ดังกล่าวมาแล้ว 2 ครั้ง แต่พระชลธาร ไม่ยอมออกมาเนื่องจากเป็นห่วงงานที่ทำร่วมกับชาวบ้านค้างคาอยู่หลายเรื่อง ทั้งนี้ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น เพราะหากเป็นเรื่องขัดขืน พรก.ฉุกเฉิน หรือ จับผึ้ง ยอมมอบตัวแล้ว ก็ควรส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย ไม่ควรตัดสินเอาผิดถึงชีวิตเช่นนี้

สำหรับประวัติ พระชลธาร ถาวโร  ผู้เสียชีวิต เป็นพระนักพัฒนา นำชาวบ้านสร้างฝายมีชีวิตหลายแห่งและปลูกป่าในพื้นที่ อ.ท่าชนะ ปี 2559 ได้รับรางวัลเหมราช บุคคลต้นแบบแห่งปี สาขาผู้นำด้านพิทักษ์ป่ารักษาสิ่งแวดล้อมต้นแบบปี 2561 ได้รับรางวัลแทนคุณแผ่นดิน 77 ต้นแบบคนดี แต่ช่วงที่มาได้มีปัญหาขัดแย้งในพื้นที่และมีการขับไล่พระชลธารให้ออกจากพื้นที่

เบื้องต้น พนักงานสอบสวนสภ.ท่าชนะ แจ้งข้อหานายมานพ ผู้ก่อเหตุในความผิดฐาน “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาฯ” โดยพนักงานสอบสวน ยังคงต้องรอผลการตรวจสถานที่เกิดเหตุ ผลการชันสูตรพลิกศพ ประกอบสำนวนการสอบสวนโดยพล.ต.ต.ฐากูร เนตรพุกกณะ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี  มีคำสั่งแต่งตั้ง คณะพนักงานสืบสวนสอบสวน เพื่อเร่งคลี่คลายคดีข้อสงสัยและให้ความกระจ่างและให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย

ด้าน พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผย ว่าผู้เสียชีวิตมีความขัดแย้งเรื่องที่ดินกับผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งจะเป็นมูลเหตุหรือไม่ต้องรอตรวจสอบ ส่วนข้อเท็จจริงหรือพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ เบื้องต้นจากการตรวจสอบพบว่าอาวุธปืนอยู่ห่างจากคนตายกว่า 10 เมตร และยังไม่ได้ขึ้นลำ ซึ่งพยานหลักฐานอยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมด โดยในวันพรุ่งนี้จะมีการประชุมคอนเฟอร์เร้นสอบถามความคืบหน้า

ส่วนประเด็นสาเหตุมาจากเคอร์ฟิว รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ  จุดนี้มีความผิดชัดเจนในเรื่องออกนอกเคหะสถานหลังเวลาที่กำหนด ส่วนเรื่องอาวุธปืนเป็นคนละประเด็นกัน แต่สาเหตุที่แท้จริงมาจากเรื่องความขัดแย้งหรือเคอร์ฟิวจะต้องตรวจสอบอีกครั้ง เบื้องต้นมีการโต้เถียงในเรื่องของเคอร์ฟิวเลยมีการใช้อาวุธกัน

ขณะที่ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระบุว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้นําตัวนายมานพ ผู้ก่อเหตุ มาสอบสวนที่ สภ.ท่าชนะ เบื้องต้น พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาในความผิดฐาน “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาฯ” โดยพนักงานสอบสวน ยังคงต้องรอผลการตรวจสถานที่เกิดเหตุ ผลการชันสูตรพลิกศพ ประกอบสำนวนการสอบสวน

โดย พล.ต.ต.ฐากูร เนตรพุกกณะ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี  มีคำสั่งแต่งตั้ง คณะพนักงานสืบสวนสอบสวน เพื่อเร่งคลี่คลายคดีข้อสงสัยและให้ความกระจ่างเพื่อให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย