54 นศ.ไทย ติดโควิด ถูกกักที่ซาอุฯ ร้องรัฐเร่งช่วยเหลือ

เรื่องราวนี้ ถูกเปิดเผยโดย นักศึกษาไทย ที่ มาดีนะห์ ซาอุดิอาระเบีย​ ขอความช่วยเหลือมายังทีมข่าวพีพีทีวี  โดยให้ข้อมูลว่า นักศึกษาไทย 54 คน เข้ารับการตรวจโรคโควิด 19 รอบแรกเจ้าหน้าที่แจ้งว่าทุกคนมีผลเป็นบวก ขณะนี้อยู่ในสถานที่กักกันของมหาวิทยาลัยอิสลามียะห์ มาดีนะห์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ดูแลเรื่องอาหารการกิน แต่ยังไม่ได้รับการรักษา  ล่าสุด มีนักศึกษาไทยอย่างน้อย 2-3 คน ทานอาหารไม่ได้ มีอาการแน่นหน้าอก หายใจไม่สะดวก

แหล่งข่าว ยังระบุว่าได้ติดต่อไปยังสถานกงสุล​ใหญ่ ณ เมืองเจดดาห์ แล้ว ตั้งแต่ 3 วันก่อน แต่ยังไม่ได้รับการติดต่อกลับ ทำให้ตอนนี้ต้องดูแลกันเอง ไม่มีเจ้าหน้าที่คอยจัดระเบียบให้  อีกทั้งสภาพแวดล้อมสถานที่กักกันเป็นหอพักนักศึกษาทั่วไป ทุกคนใช้ห้องน้ำรวม และอาหารจะวางรวมไว้ที่เดียวกัน ทุกสามารถเดินไปหยิบอาหารเองได้ ซึ่งมีความเสี่ยงสูงที่จะทำให้เชื้อแพร่กระจายไปยังนักศึกษาคนอื่น

แม้ก่อนหน้านี้ทางการไทย โดยสถานกงสุล​ใหญ่ ณ เมืองเจดดาห์ จะจัดเที่ยวบินพิเศษ​ วันที่ 6 มิถุนายน​ที่ผ่านมา เพื่อส่งคนไทยกลับประเทศ​ แต่นักศึกษากลุ่มนี้ถูกตรวจพบเชื้อก่อน จึงไม่สามารถเดินทางกลับไทยได้ ซึ่งนักศึกษาทั้ง 54 คน มีความประสงค์อยากกลับมารักษาตัวที่ประเทศไทย และต้องการความชัดเจนในการช่วยเหลือ

ทีมข่าวพีพีทีวีได้สอบถาม นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนัก นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานเรื่องดังกล่าว แต่พยายามสอบถามข้อเท็จจริงไปยังกระทรวงการต่างประเทศแล้ว อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูล ซึ่งตามหลักการช่วยเหลือเบื้องต้นจะต้องดูว่าปัญหาที่เกิดขึ้นอยู่ในระดับไหน และกฎเกณฑ์ในประเทศนั้นๆ อนุญาตให้สามารถทำอะไรได้บ้าง

สำหรับตัวเลขยืนยันผู้ป่วยรายใหม่ในประเทศไทย วันนี้มีทั้งหมด 5 คน เดินทางกลับมาจาก ประเทศซาอุดีอาระเบียและเข้าสถานที่เฝ้าระวังที่รัฐจัดให้ทั้งหมดเป็น นักเรียน นักศึกษา เพศชาย เดินทางถึงไทยด้วยเครื่องบินลำเดียวกัน เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน และตรวจพบเชื้อในวันเดียวกัน แบ่งเป็น 3 คนแรก มีอายุ 21, 23  และ 26 ปี มีอาการไข้ เจ็บคอ จมูกไม่ได้กลิ่น เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลในจังหวัดฉะเชิงเทรา  อีก 2 คน  มีอายุ 24 และ 26 ปี มีอาการไอ มีน้ำมูก จมูกไม่ได้กลิ่น เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลใน จังหวัดสมุทรปราการ

ทำให้ยอดผู้ป่วยยืนยันสะสมล่าสุดอยู่ที่ 3,134 คน จำนวนผู้ป่วยรักษาหายแล้วรวม 2,987 คน และยังมีผู้ป่วยรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 89 คน ขณะที่ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 58 คน 

ทีมข่าวพีพีทีวี พูดคุยกับ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ พิเศษ นายแพทย์พลวรรธน์ วิทูรกลชิต ผู้ตรวจราชการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ย้ำว่ายังคงมีความจำเป็น เพราะแม้จำนวนผู้ติดเชื้อภายในประเทศจะเป็นศูนย์ต่อเนื่องมาเกือบ 3 สัปดาห์ แต่หลายประเทศยังคงมีการระบาด ดังนั้นในช่วงหลังมีการผ่อนปรนระยะที่ 4 ที่เริ่มมีการเปิดสนามบินและอนุญาตให้เดินทางข้ามจังหวัดได้ จึงเป็นช่วงที่ต้องเฝ้าระวัง เพราะอย่างที่ทราบกันดีว่าผู้ติดเชื้อ โควิด-19 บางคนไม่แสดงอาการ หากประชาชนชให้ความร่วมมือสแกนไทยชนะทุกครั้งที่มีการเข้าออกสถานที่ต่างๆ ก็จะช่วยให้การติดตามและการควบคุมโรคเป็นไปด้วยดี

ส่วนจำนวนคนที่ลงชื่อเช็กอิน-เช็กเอาท์ ผ่านไทยชนะตอนนี้เกิน 100 ล้านครั้งแล้ว และโดยรวมถือว่ายังอยู่ในเกณฑ์ดี การ์ดยังไม่ตก โดยพื้นที่ที่ให้ความร่วมมือเกิน 100 เปอร์เซ็นต์ หรือ มีคนลงทะเบียนมากกว่าจำนวนประชาชนจริงที่มีอยู่ในพื้นที่ ส่วนใหญ่จะอยู่ในกรุงเทพฯ ปริมณฑลและหัวเมืองในจังหวัดใหญ่  โดยกิจการที่มีคนลงทะเบียนมากที่สุด เป็นกิจการประเภทร้านอาหารและห้างสรรพสินค้า หลังจากนี้ ศบค. เตรียมจัดแคมเปญพิเศษเพื่อจูงใจประชาชนด้วย