ครม.ไฟเขียว ร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ วงเงิน 3.3 ล้านล้านบาท
เป็นการคาดการณ์สภาวะทางเศรษฐกิจ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เชื่อว่าหลังโควิด-19 คลี่คลาย สภาวะเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยเชื่อว่าส่วนหนึ่งมาจากการเบิกจ่ายงบประมาณ ซึ่งการตั้งงบประมาณปีนี้ให้ความสำคัญกับการฟื้นฟูและเยียวยาผลกระทบเป็นหลัก
สำหรับร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 ที่สภาผู้แทนราษฎร กำลังพิจารณาอยู่ในขณะนี้ เป็นการตั้งวงเงินงบประมาณไว้ 3.3 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณที่แล้ว 1 แสนล้านบาท โดยเป็นการตั้งงบแบบขาดดุล 623,000 ล้านบาท
โดย 5 กระทรวงที่ตั้งขอรับงบประมาณสูงสุด 5 อันดับแรก ยังเป็นกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการคลัง กระทรวงกลาโหม และกระทรวงคมนาคม ตามลำดับเช่นเดิม
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีต่อที่ประชุม โดยคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจไทย ในปีงบประมาณ 2564 คาดว่าจะขยายตัวเพิ่มมากขึ้น หลังการระบาดของโควิด-19 ผ่อนคลาย และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ จากการเบิกจ่ายงบประมาณ และการพ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท ที่จะนำมาใช้บรรเทา แก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูสถานการณ์โควิด-19 โดยมีการคาดการณ์ว่าการระบาดจะสิ้นสุดลงอย่างสิ้นเชิงภายในไตรมาสแรกของปี 64 หรือสิ้นปีนี้
ขณะที่รายละเอียดของ ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ที่น่าสนใจ คือ วงเงิน “งบกลาง” ที่ตั้งไว้ 614,616.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณที่แล้ว 95,000 ล้านบาท
ค่าใช้จ่ายสูงสุด เป็นเงินเบี้ยหวัด บำเน็จ บำนาญ 3 แสนล้านบาท และเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉิน หรือจำเป็ญ 99,000 ล้านบาท
โดยมีการตั้งค่าใช้จ่ายใหม่ คือ ค่าใช้จ่ายในการบรรเทาแก้ปัญหาและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 วงเงิน 40,326 ล้านบาท
ก่อนการประชุม นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน เปิดเผยว่าตลอดอภิปรายทั้ง 3 วันนี้ ฝ่ายค้านได้รับลดสัดส่วนผู้อภิปรายจาก 120 คน เหลือ 90 คน ส่วนจะลงมติงดออกเสียง รับหลักการ หรือไม่รับหลักการ ก็ขึ้นอยู่กับ การชี้แจงและตอบคำถามของ นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี
ลงมติภายในวันศุกร์นี้ และตั้งคณะกรรมาธิการ 49 คน มาพิจารณาร่างให้แล้วเสร็จ ปฏิทินงบประมาณ จะพิจารณาวาระ 2-3 ไม่เกินวันที่ 16-17 กันยายน หรือก่อนปิดสมัยประชุมวันที่ 18 กันยายนนี้
แบงก์ชาติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 0.5% ต่อปี หั่นจีดีพีเหลือ ติดลบ 8.1%
