นายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ ส.ส.กทม.เขตบึงกุ่ม-คันนายาว พรรคเพื่อไทย พร้อมนางชญาดา วิภัติภูมิประเทศ นายกสโมสรกีฬาคันนายาว และ นายเนติภูมิ มิ่งรุจิราลัย ว่าที่ผู้สมัครส.ก.เขตบึงกุ่ม ลงพื้นที่เยี่ยมบ้านผู้ป่วย ผู้สูงอายุและผู้ป่วยติดเตียงในหมู่บ้าน บก.ทหารสูงสุด แขวงรามอินทรา เขตคันนายาว และ มอบเงินสด ถุงยังชีพ และของใช้จำเป็นให้แก่ผู้สูงอายุและผู้ป่วยติดเตียง
“พลภูมิ” จี้ สปสช. หาคลินิก-สถานบริการใหม่ รองรับปชช.
โดยนายพลภูมิ กล่าวว่า ในฐานะผู้แทนราษฏร ยืนยันจะดูแลพี่น้องประชาชนอย่างดีที่สุด โดยเฉพาะผู้สูงอายุเพราะขณะนี้ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ จึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างมากที่คนกลุ่มนี่จะได้รับการดูแล ที่สำคัญทุกคนมีโอกาสเป็นผู้ป่วยติดเตียง อย่างไรก็ตามปัจจุบันมีแนวโน้มที่ผู้สูงอายุกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียงเพิ่มมากขึ้นจนเป็นภาระให้กับครอบครัวที่จะต้องหาคนมาดูแล
ทั้งนี้หากบ้านไหนมีเงินทองก็สามารถจ้างคนมาดูแลได้ แต่หลายครอบครัวไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ การดูแลจึงเป็นเรื่องยากลำบาก เพราะไหนจะต้องดูแลคนป่วย ไหนจะต้องไปทำงาน กังวลใจ ละล้าละลัง และหากไม่ได้ระบบการดูแลที่เหมาะสม ผู้สูงอายุที่ป่วยติดเตียง ยังเสี่ยงต่อการเป็นโรคแทรกซ้อน แผลกดทับ ติดเชื้อ ขาดสารอาหาร มีปัญหาเกี่ยวกับระบบขับถ่าย ต้องทำการรักษาเพิ่มเติมกลายเป็นค่าใช้จ่ายที่มากขึ้นไปอีก
“พลภูมิ” จี้ ผู้ว่าฯกทม.เพิ่มค่าตอบแทนพิเศษ ขรก.-จนท.กทม.สู้โควิด-19
“วันนี้หลายครอบครัวที่ฐานะความเป็นอยู่ลำบาก ก็จะได้รับการดูแล และช่วยเหลือเบื้องต้นจากเจ้าหน้าที่อาสาสมัครสาธารณสุขประจำชุมชน(อสส.) ที่ได้รับการฝึกฝนจากศูนย์สาธารณสุขในพื้นที่แต่ด้วยงบประมาณที่ไม่เพียงพอขาดแคลนอุปกรณ์ ส่งผลให้ อสส.ดูแลประชาชนได้ไม่ทั่วถึง ซึ่งปัญหานี้เป็นเหมือนกันทั่ว กทม.”นายพลภูมิ กล่าว
อย่างไรก็ตามหากรัฐบาลเห็นความสำคัญของคนกลุ่มนี้ ก็ควรจัดสรรงบประมาณเพิ่มให้แก่ศูนย์สาธารณสุขต่างๆในพื้นที่ กทม. เพื่อเพิ่มจำนวนอาสาสมัครดูแลผู้ป่วยติดเตียงให้มากขึ้น จะได้ดูแลทั่วถึงทุกพื้นที่ คุณภาพชีวิตของผู้ป่วยติดเตียงและครอบครัวจะได้มีกำลังใจที่ดีขึ้นอีกด้วย
“หมอฟัน” เตือน ต้องให้ความสำคัญ อนามัยช่องปากผู้ป่วยติดเตียง
