นพ.อนุชา เศรษฐเสถียร เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ บอกว่า สพฉ. ได้จัดศูนย์ประสานงานติดตามการบริหารจัดการ เฝ้าระวังอุบัติเหตุและการเจ็บป่วยฉุกเฉิน โดยสนับสนุนการส่งต่อผู้ป่วยฉุกเฉินด้วยยานพาหนะพิเศษ สำหรับผู้ป่วยที่ต้องการได้รับความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ควบคู่ไปกับรณรงค์ให้ทีมผู้ปฏิบัติการทางการแพทย์ฉุกเฉินในทุกจังหวัด นำเครื่องฟื้นคืนคลื่นหัวใจไฟฟ้าชนิดอัตโนมัติ (เออีดี) แบบสะพายหลังปั่นตามขบวนไปด้วย เพื่อที่จะได้ช่วยเหลือผู้ป่วยโรคหัวใจได้อย่างทันท่วงที เพราะสำหรับผู้ป่วยโรคหัวใจทุกวินาทีมีค่ามาก และหมายถึงชีวิตว่าจะรอดหรือไม่
ส่วนกรณีเกิดอุบัติเหตุรถจักรยานล้ม ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะได้รับบาดเจ็บกระดูกหัก โดยเฉพาะมือเพราะตามปกติหากล้มแล้วจะเอามือไปค้ำ หรือหากล้มทั้งตัวอาจทำให้กระดูกไหปลาร้า หรือกระดูกเชิงกรานหัก ซึ่งผู้ที่พบเห็นหากไม่มีความรู้เรื่องการปฐมพยาบาล ไม่ควรเคลื่อนย้ายผู้ป่วยโดยเด็ดขาด เพราะอาจทำให้บาดเจ็บรุนแรงขึ้น แนะนำว่าหากพบเห็นผู้ป่วยฉุกเฉิน สิ่งแรกที่ต้องทำคือตั้งสติ และโทรแจ้งสายด่วน 1669 ทันที โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่ผู้บาดเจ็บหมดสติ
ทั้งนี้ สำหรับกิจกรรมปั่นเพื่อแม่ หรือ Bike for Mom ที่ผ่านมา มีผู้ป่วยฉุกเฉินที่ประสบอุบัติเหตุทั้งสิ้น 93 คน แบ่งเป็นจักรยานล้ม เหนื่อยหอบ ชักเกร็ง โรคหัวใจ และถลอก เป็นต้น
