กรมชลเผย เขื่อนแม่งัดฯมีปริมาณน้ำใช้ได้ถึงเดือนพฤษภาคม

กรมชลประทาน วอนทุกภาคส่วนในเมืองเชียงใหม่ ร่วมใจกันประหยัดน้ำอย่างจริงจัง และให้การใช้น้ำเป็นไปตามแผนที่วางไว้ เนื่องจากปริมาณน้ำต้นทุนที่ใช้ผลิตน้ำประปา ในเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล มีปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์น้อย เตือนหากมีการนำน้ำจากเขื่อนไปใช้ในกิจกรรมอื่นๆ มีโอกาสเสี่ยงขาดน้ำสูง

สถานการณ์น้ำในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ปัจจุบันปริมาณน้ำในเขื่อนต่างๆ อยู่ในเกณฑ์น้อยมาก เนื่องจากในช่วงฤดูฝนปี 2558 ที่ผ่านมา มีปริมาณฝนตกในพื้นที่ภาคเหนือค่อนข้างน้อย ส่งผลให้ปริมาณน้ำไหลลงเขื่อนต่างๆอยู่ในเกณฑ์น้อยตามไปด้วย โดยเฉพาะเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล ขณนี้(4 ก.พ. 59) มีปริมาณน้ำเหลืออยู่เพียง 63 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 24 ของความจุอ่างฯ มีปริมาณน้ำที่นำมาใช้การได้เพียง 41 ล้านลูกบาศก์เมตร ถือว่าอยู่ในเกณฑ์น้อยมาก ไม่เพียงพอที่จะสนับสนุนการใช้น้ำในภาคการเกษตรได้ และจำเป็นต้องควบคุมการใช้น้ำอย่างเคร่งครัด เฉพาะการใช้น้ำเพื่อผลิตน้ำประปาของเมืองเชียงใหม่ และจ.ลำพูน เท่านั้น คาดว่าปริมาณน้ำที่มีอยู่ จะใช้ได้จนถึงเดือนพฤษภาคมนี้ จึงขอให้ประชาชนใช้น้ำอย่างประหยัดจริงจังด้วย

สำหรับสถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยา ล่าสุด(4 ก.พ. 59) ปริมาณน้ำใช้การได้ในเขื่อนหลักทั้ง 4 เขื่อน(เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยฯ และเขื่อนป่าสักฯ) มีปริมาณน้ำคงเหลือรวมกัน 3,398  ล้านลูกบาศก์เมตร ในขณะที่มีการใช้น้ำรวมกันวันละประมาณ 17.79 ล้านลูกบาศก์เมตร(แผนการใช้น้ำระหว่าง 1 พ.ย. 58 – 30 มิ.ย. 59) หากมีการใช้น้ำเป็นไปตามแผนที่วางไว้ มั่นใจว่าจะรอดพ้นสภาวะแล้งปีนี้ไปได้

ทั้งนี้ กรมชลประทาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยังคงเดินหน้าลงพื้นที่ประชาสัมพันธ์การสร้างความรู้ ความเข้าใจ ต่อกลุ่มเกษตรกร และกลุ่มผู้ใช้น้ำในพื้นที่ต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อขอความร่วมมือในการร่วมกันบริหารจัดการน้ำที่มีอยู่อย่างจำกัดให้เพียงพอใช้ ในการอุปโภคบริโภค และรักษาระบบนิเวศ ตลอดในช่วงฤดูแล้งไปจนถึงต้นฤดูฝนหน้านี้ด้วย หากทุกฝ่ายร่วมใจกัน จะทำให้เราสามารถผ่านพ้นวิกฤตปัญหาภัยแล้งปีนี้ไปได้ด้วยดี

ที่มา http://water.rid.go.th/