วันนี้ (18 ส.ค. 59) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระดับน้ำโขงยังเพิ่มต่อเนื่อง วันละ 30-40 เซนติเมตร หลังมีฝนตกหนักในหลายพื้นที่และน้ำเหนือไหลมาจากจังหวัดหนองคาย โดยระดับน้ำโขงในเช้าวันนี้ ที่ จ.นครพนม วัดได้ 9.36 เมตร มีระดับสูงขึ้นจากเมื่อวานนี้ 26 เซนติเมตร เสี่ยงต่อการเกิดปัญหาน้ำเอ่อท่วม หากน้ำโขงเพิ่มใกล้ถึงจุดวิกฤติ จะทำให้น้ำโขงหนุนลำน้ำสาขา ไหลระบายลงสู่แม่น้ำโขงช้าลง โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยง ติดกับน้ำโขง 5 อำเภอ คือ อ.ธาตุพนม อ.เมือง อ.ท่าอุเทน อ.บ้านแพง นอกจากนี้ยังมี อ.ศรีสงคราม ที่ติดกับลำน้ำสงคราม
เบื้องต้นสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.นครพนม ได้ประกาศเดือนให้ประชาชนในพื้นที่ เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำ เตรียมพร้อมรับมือน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก พร้อมกับประสานไปยังหน่วยงานเกี่ยวข้องทั้ง 12 อำเภอ เพื่อเตรียมความพร้อมดูแลช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่เสี่ยง และกำชับผู้ประกอบการเดินเรือข้ามฟากไทย-ลาว ที่บริการประชาชนและบรรทุกสินค้าระหว่างชายแดนไทย-ลาว ให้จัดเตรียมอุปกรณ์ชูชีพให้กับผู้โดยสาร และควบคุมน้ำหนัก ห้ามบรรทุกเกินปริมาณ เนื่องจากช่วงนี้น้ำโขงสูง ไหลเชี่ยว เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ
ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมหลายพื้นที่ใน จ.แพร่ ซึ่งเป็นจังหวัดที่รับน้ำต่อมาจาก จ.น่าน เริ่มลดลงแล้ว เหลือเพียงที่ อ.วังชิ้น ซึ่งเป็นอำเภอสุดท้าย ยังมีน้ำท่วมบางพื้นที่ ทางจังหวัดได้สั่งให้มีการสำรวจความเสียหายจากน้ำท่วมทั้งบ้านเรือน พื้นที่ทางการเกษตร และสถานที่ราชการ พร้อมทั้งเฝ้าระวังพายุลูกใหม่ที่เข้ามาตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 21 ส.ค. 59 สำหรับมวลน้ำนี้ยังไหลต่อไปยัง จ.สุโขทัย
ด้านกรมอุตุนิยมวิทยารายงานสภาพอากาศ ประเทศไทยตอนบนมีฝนเพิ่มขึ้นในระยะนี้ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนกรุงเทพมหานครและปริมณฑลมีโอกาสเกิดฝนฟ้าคะนองในช่วงระหว่างบ่ายถึงค่ำ
สำหรับบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 2-4 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กที่มีขนาดต่ำกว่า 3 วา ควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 21 ส.ค.59 นี้ไว้ด้วย
