ข่าวการเรียกทูตมาเลเซียประจำกรุงเปียงยางกลับประเทศ เป็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่าเหตุการณ์ลอบสังหาร คิม จอง นัม กลางอาคารผู้โดยสารสนามบินนานาชาติกัวลาลัมเปอร์กำลังสั่นคลอนความสัมพันธ์ระหว่างมาเลเซียและเกาหลีเหนือ
แม้ว่าจะมีความคืบหน้าในการสืบสวนตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ทางมาเลเซียก็ยังไม่ได้แถลงผลการชันสูตรศพของพี่ชายต่างมารดาของ นายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ
ความขัดแย้งระหว่างมาเลเซียและเกาหลีเหนือ เริ่มส่อเค้ามาตั้งแต่ที่เกาหลีเหนือต้องการให้มาเลเซียส่งร่าง คิม จอง นัม กลับประเทศทันที เพื่อที่รัฐบาลเกาหลีเหนือจะได้ดำเนินการชันสูตรศพ ถึงขั้นมีข่าวลือว่ามีรถจากสถานทูตเกาหลีเหนือไปรอที่โรงพยาบาลที่ร่างของ คิม จอง นัม ถูกส่งไป แต่ทางมาเลเซียได้ปฏิเสธ โดยระบุว่าจะส่งร่างของคิม จอง นัม ให้ก็ต้องเมื่อเกาหลีเหนือส่งตัวอย่างดีเอ็นเอของญาติที่ใกล้ชิดที่สุดมาให้ตรวจสอบ
หลังจากนั้นในวันศุกร์ ทูตเกาหลีเหนือก็แถลงข่าวโจมตีการดำเนินการของตำรวจมาเลเซียที่ไม่ยอมทำตามข้อเรียกร้องว่า รัฐบาลมาเลเซียกำลังปกปิดอะไรบางอย่าง และ ไม่สามารถเชื่อถือการสอบสวนของตำรวจมาเลเซียในคดีนี้ได้อีก
นี่ก็ผ่านมาแล้ว 7 วันตั้งแต่เกิดเหตุ แต่ก็ยังไม่มีหลักฐานชัดเจนที่ระบุถึงสาเหตุการตาย ซึ่งตอนนี้ เราไม่สามารถเชื่อถือการสอบสวนของตำรวจมาเลเซียได้ แถมยังมีข้อสงสัยด้วยว่าอาจจะมีผู้อยู่เบื้องหลังการสอบสวน ซึ่งหลังจากการแถลงของเกาหลีเหนือ กระทรวงต่างประเทศของมาเลเซียก็ได้ออกคำสั่งเรียกทูตประจำกรุงเปียงยางกลับประเทศ
มาเลเซีย มีความสัมพันธ์อันดีกับเกาหลีเหนือ มากกว่าหลายๆ ประเทศในโลก สังเกตได้จากการที่มีสถานทูตเกาหลีเหนือในประเทศ และพลเมืองของทั้งสองชาติสามารถเดินทางไปมาระหว่างกันได้ โดยไม่ต้องใช้วีซ่า
แต่จะให้ทำตามข้อเรียกร้องของรัฐบาลเกาหลีเหนืออย่างเดียวก็คงจะเป็นไปไม่ได้ เพราะเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในอาคารผู้โดยสารของสนามบินนานาชาติที่อยู่ในเมืองหลวงอย่างกรุงกัวลาลัมเปอร์ อีกทั้งยังเป็นการลอบสังหาร ที่ดูเหมือนกับว่า จะมีการวางแผนมาอย่างดี และมีผู้ต้องสงสัยทั้ง ชาวเวียดนาม อินโดนีเซีย ชาวมาเลเซีย และชาวเกาหลีเหนืออีก 4 คน ที่สำคัญต้องไม่ลืมว่ารัฐบาลเกาหลีเหนือเองก็ตกเป็นเป้าสงสัยอันดับต้นๆ ในปมลอบสังหารครั้งนี้ด้วย
