วันนี้ (30 ก.ค. 60) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากเหตุการณ์น้ำท่วมเมื่อวันศุกร์ ที่ 28 กรกฎาคม ที่ผ่านมา หลายจังหวัดในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนือ ถูกฝนกระหน่ำอย่างหนักจากอิทธิพลของพายุเซินกา โดยเฉพาะจังหวัดสกลนคร ที่ระดับเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว สร้างความเสียหายให้ประชาชนเป็นวงกว้าง หนึ่งในความเสียหายที่หนักหนาสำหรับประชาชนคือ รถยนต์ส่วนตัว ถูกน้ำท่วมมิดหลังคาเสียหายทั้งคัน จนหลายคนเกิดคำถามว่า จะสามารถซ่อมให้รถกลับมาใช้งานเหมือนเดิมได้หรือไม่
ล่าสุด เฟซบุ๊กแฟนเพจ วรพล สิงห์เขียวพงษ์ กูรูด้านรถยนต์ ออกมาโพสต์ข้อความให้ความรู้ถึงกรณีดังกล่าวว่า “รถที่โดนน้ำท่วมครับ หลังน้ำลด ให้รีบถอดขั้วแบตฯ อย่าสตาร์ทเครื่อง แจ้งประกันภัยถ้ามีคุ้มครอง ถ้าไม่มี ให้ลากหรือขึ้นรถสไลด์ไปหาอู่ หาช่างที่ไว้ใจได้ ถ้าสตาร์ทเครื่อง น้ำที่ค้างอยู่อาจทำให้ระบบไฟฟ้าเกิดการช๊อตหรือลัดวงจร ก้านสูบอาจคด จะเสียหายบานปลายได้ ส่วนพรมและเบาะชุ่มน้ำช่างมัน ยังไงก็ซักตากได้ครับ”
นอกจากนี้ แฟนเพจวรพล ยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่า หากรู้ข่าวล่วงหน้าว่าอาจเกิดน้ำท่วมควรถอดขั้วแบตเตอรี่ของรถออกก่อน แต่สำหรับรถที่ถูกน้ำท่วมไปแล้ว ถ้ามีประกันภัยครอบคลุม อย่าให้เจ้าหน้าที่สตาร์ทเครื่องเด็ดขาด แต่หากประกันภัยไม่ครอบคลุมสิ่งแรกที่ควรทำเอง คือ เปิดฝากระโปรงรถถอดแบตเตอรี่ออก ตากแห้งทำความสะอาด เพราะจะเป็นการตัดวงจรไฟฟ้าในรถทั้งคัน หลังจากนั้นค่อยหารือกับช่าง หรือผู้ชำนาญการ และที่สำคัญห้ามสตาร์ทเครื่องยนต์เด็ดขาด
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : วรพล สิงห์เขียวพงษ์
ขอขอบคุณภาพจาก : Ich Bin Söm