ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เข้าสู่วันที่ 3 แล้ว ที่เขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มอัตราการระบายน้ำจาก 2,600 เป็น 2,700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที แต่ว่าพื้นที่เหนือเขื่อน ระดับน้ำลดลงไปเพียงเล็กน้อย ขณะที่พื้นที่ท้ายเขื่อนระดับน้ำยังสูงขึ้นต่อเนื่องในหลายพื้นที่ จนต้องระดมกำลังทั้งคนทั้งเครื่องสูบน้ำมารับมือ
ทั้งนี้ เริ่มต้นจะเห็นชัดเจนว่าระดับน้ำที่ไหลผ่านตัวเมืองจังหวัดนครสวรรค์ ยังคงมีปริมาณมากถึง 3,019 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที นั่นหมายความว่าน้ำที่จะถูกส่งไปยังเขื่อนเจ้าพระยายังมีปริมาณมาก และเป็นเหตุให้พื้นที่เหนือเขื่อนระดับน้ำยังทรงตัวต่อเนื่อง
ส่วนพื้นที่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยา วันนี้เขื่อนเจ้าพระยายังคงอัตราการระบายน้ำไว้ที่ 2,697 คือไม่เกิน 2,700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีเป็นวันที่ 3 ซึ่งมวลน้ำสูงสุดตอนนี้ไหลมาถึงที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาแล้ว ตั้งแต่เมื่อเช่วงเช้า ทำให้ระดับน้ำที่นี่เพิ่มสูงขึ้นอีกอย่างน้อย 8 เซนติเมตร และยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แต่ทางจังหวัดคาดการณ์ว่า ระดับน้ำน่าจะไม่สูงเกิน 15-20 เซนติเมตร จากระดับน้ำท่วมขังเดิม แต่ที่น่ากังวลขณะนี้คือ บางจุดระดับน้ำเริ่มท่วมเส้นทางสัญจร อย่างเช่นที่ อ.เสนา ผักไห่ บางบาล ทำให้ขณะนี้ เจ้าหน้าที่ต้องน้ำกำลังไปเสริมคันดินที่ถนนสายต่างๆเพื่อป้องกันน้ำ และต้องเฝ้าระวังด้วยว่าจะมีใครแอบมาทำลายคันดินหรือไม่ เพราะเริ่มมีชาวบ้านบางส่วนไม่พอใจ กลัวว่าน้ำจะไหลไปไหนไม่ได้
ขณะที่จังหวัดอ่างทอง มวลน้ำสูงสุดที่ถูกปล่อยจากเขื่อนเจ้าพระยา มาถึงตั้งแต่เมื่อคืน ทำให้ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ต้องเร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ถึง 13 เครื่อง เพื่อป้องกันผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับชุมชนริมน้ำ โดยเฉพาะพื้นที่ราชการและพื้นที่เศรษฐกิจของทางจังหวัด รวมถึงจุดที่ตั้งของพระเมรุมาศจำลอง บริเวณหน้าศาลากลางหลังเก่าจังหวัด ซึ่งจะใช้ในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ ในหลวงรัชกาลที่ 9 วันพรุ่งนี้
ส่วนแผนการเร่งระบายน้ำของกรมชลประทาน มาดูที่ฝั่งตะวันตกก่อน ฝั่งนี้ เป็นจุดที่มีน้ำท่วมขังค่อนข้างมาก ดังนั้นกรมชลประทานจะใช้วิธีเร่งระบายน้ำออกสู่แม่น้ำท่าจีน ซึ่งขณะนี้ ได้นำเรือ และเครื่องผลักดันน้ำไปติดตั้งและมากกว่า 100 เครื่อง ส่วนทางฝั่งตะวันออก กรมชลประทานใช้วิธิตัดยอดน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยา ลงคลองชัยนาทป่าสัก และมาบรรจบกับแม่น้ำป่าสักที่เหนือเขื่อนพระรามหก ซึ่งน้ำบางส่วนจากจุดนี้ จะถูกผันลงคลองระพีพัฒน์เพื่อไปออกทางแม่น้ำบางปะกง ซึ่งล่าสุดกรมชลประทานได้นำเครื่องผลักดันน้ำติดตั้งไว้ที่ฝั่งตะวันออกนี้รวม 12 เครื่อง
ขณะที่กรมอุตุก็ยังประกาศเตือนว่าในระยะนี้ พื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมถึงกรุงเทพ และปริมณฑล ยังคงมีฝนฟ้าคะนองในบางแห่ง ขอให้เตรียมรับมือเอาไว้ด้วย
