เมื่อวันที่ (23 ม.ค.61) สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล มหาวิทยาลัยบูรพ บางแสน จังหวัดชลบุรี น.ส.รติมา ครุวรรณเจริญ นักวิทยาศาสตร์ชำนาญการหน่วยวิจัยความหลายหลายในทะเล สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล มหาวิทยาลัยบูรพา บางแสน เปิดเผยว่า ที่ประชาชนทั่วไปและชาวจีนเชื่อว่า กินม้าน้ำ 2 ชนิด คือ ม้าน้ำดำ ซึ่งมีลักษณะเป็นสีดำสนิท ผิวค่อนข้างเรียบ และม้าน้ำหนาม ซึ่งมีสีน้ำตาลแดงและผิวพรรณลำตัว มีลักษณะคล้ายหนามอยู่ทั่วตัว ซึ่งทั้ง 2 ชนิดนี้ กำลังเป็นที่นิยม ของคนที่นำมาออกมาปิ้งย่างขายตัวละ 150 บาท หรือใส่ถุงขายตามตลาดเยาวราช กิโลกรัมละมากกว่า 6,000 บาท ส่วนที่นิยมรับประทานกัน เพราะเชื่อว่าม้าน้ำดำและม้าน้ำหนามหนาม มีคุณสมบัติเป็นยารักษาโรคต่างๆ เช่น โรคหืด เส้นโลหิตแดงตีบ ภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ โรคสะเก็ดเงิน กระดูกแตกหัก โรคคอฟอก จึงหันมานำนิยมซื้อขายเพื่อรับประทานเป็นยารักษาโรคดังกล่าว
โดยเนื่องจากความต้องการใช้ม้าน้ำทำให้พวกนักอนุรักษ์ต่าง ๆ จากต่างประเทศทั่วโลก เริ่มวิตกว่า ม้าน้ำอาจจะสูญพันธุ์ได้ จึงได้มีการทำข้อตกลง ระหว่างประเทศจัดม้าน้ำเข้าสู่อนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งชนิดสัตว์ป่า และพืชป่าที่ใกล้สูญพันธ์ หรือที่เรียกกันติดปากว่า สัญญา ไซเตส บัญชีที่ 2 ที่ว่าด้วยชนิดพันธ์ ที่มีแนวโน้มใกล้สูญพันธุ์ คือ การทำการค้าต้องอยู่ในการควบคุมหรือจำกัดปริมาณ เพื่อไม่ให้มีผลเสียหายหรือทำให้ประชากรของม้าน้ำลดลงอย่างรวดเร็วจนใกล้สูญพันธุ์ แต่ขณะนี้ ก็ยังไม่จัดว่าม้าน้ำเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ยังสามารถซื้อขายกันได้ภายในประเทศ แต่ห้ามขายออกนอกประเทศ โดยคาดว่า อนาคตหากสัญญาไซเตสสำเร็จ ม้าน้ำก็จะเข้าประเภทสัตว์ป่าคุ้มครอง ห้ามซื้อขายหรือรับประทาน