พบคู่กรณี “ครอบครัวหัวร้อน”เพิ่ม แฉพฤติกรรมพูดข่มขู่-ด่าทอ และถ่ายคลิป

คุณตั๊ก หนึ่งในคู่กรณีของครอบครัวที่ด่าทอและทำร้ายตำรวจภูธรมาบตาพุด จังหวัดระยอง เปิดเผยผ่านการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ในรายการเป็นเรื่องเป็นข่าวว่า เธอเป็นหนึ่งในคู่กรณีของครอบครัวนี้ ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนั้นเกิดขึ้นที่ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จังหวัดตาก ขณะที่เธอและแฟนกำลังเลี้ยวรถเข้าซองของที่จอดรถ แต่ได้มีผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งก็คือนางหทัยรัตน์ สมถวิล ผู้หญิงที่ปรากฎอยู่ในคลิปครอบครัวด่าตำรวจที่จังหวัดระยอง เข้ามาขวาง และได้ยินเสียงของผู้ชายตะโกนว่าตนเองขับรถเหยียบเท้า

เธอจึงได้เปิดกระจกไปสอบถามอาการ โดยนางหทัยรัตน์ได้เดินเข้าต่อว่าพร้อมกับถือโทรศัพท์ถ่ายคลิปวิดีโอ นอกจากนี้ยังบอกอีกว่าเรียนจบคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และสามีเป็นผู้รับเหมา ต้องเสียงานเสียงาน และจะแจ้งตำรวจ

ขณะนั้นได้มีรถขับตามเข้ามาอีกหนึ่งคัน รวมแล้วมีผู้ชายกว่า 10 คน ที่มาล้อมรอบอยู่บริเวณนั้น ซึ่งสามีของนางหทัยรัตน์ที่อ้างว่าโดนรถเหยียบเท้า ไม่ได้ลุกมาเจรจาพูดคุยด้วย แต่กลับนั่งอยู่ในรถ

โดยระหว่างที่รอตำรวจ และพนักงานของห้างสรรพสินค้าฯ เข้ามาร่วมรับฟังเหตุการณ์ เธอได้ยืนยันความบริสุทธิ์ใจด้วยการจะพาผู้ที่อ้างว่าโดนรถเหยียบเท้าไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล แต่ครอบครัวนี้กลับบ่ายเบี่ยงที่จะไปโรงพยาบาล กระทั่งพนักงานของห้างสรรพสินค้าฯมาถึง จึงได้ขอได้ดูกล้องวงจรปิดที่ติดไว้บริเวณนั้นถึง 3 ตัว เพื่อดูว่าได้ขับรถเหยียบจริงหรือไม่ กลับโดนกล่าวหาว่ารู้เห็นกับพนักงานห้างสรรพสินค้าฯ และนางหทัยรัตน์ยังพูดจาข่มขู่ว่าให้ไปเคลียร์กันข้างนอก จะฟันให้ขาด 2 ท่อน เพราะในรถมีมีด ตนเองจึงได้บอกสามีนางหทัยรัตน์อีกครั้งว่า ให้ไปตรวจที่โรงพยาบาล หากบาดเจ็บจริง จะชดใช้ค่าเสียหายให้ ซึ่งชายคนดังกล่าวตะโกนกลับมาว่า ใครจะไปยืนโง่ให้เหยียบ

ต่อมาตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุ จึงได้เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ฟัง ครอบครัวนี้ได้กล่าวหาว่าตำรวจเอนเอียง และถามว่าตำรวจชื่ออะไร สุดท้ายนัดไปเคลียร์กันที่สถานีตำรวจ แต่ปรากฎว่าไร้เงาคู่กรณี จึงได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน

ด้านนายนิติธร แก้วโต หรือ “ทนายเจมส์” มองว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นที่จังหวัดตากค่อนข้างมีความผิดปกติ เพราะหากมีความสุจริต และได้รับบาดเจ็บจริงจะต้องรีบไปโรงพยาบาล เพื่อนำหลักฐานมาเป็นประโยชน์เรื่องคดี แต่กลับเรียกร้องให้เคลียร์ปัญหาให้จบที่จุดเกิดเหตุ และยังใช้น้ำเสียงที่ดัง คำพูดข่มขู่ และกำลังคนที่เยอะ รวมถึงการถ่ายคลิปวิดีโอ เพื่อใช้เป็นข้อได้เปรียบ ซึ่งดูเป็นเรื่องที่แปลกจากความเป็นจริงที่ควรเกิดขึ้น

ส่วนกรณีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่มาบตาพุด จังหวัดระยอง โดยทั่วไปหากไม่ได้มีการกระทำผิด ประชาชนมีสิทธิที่จะปฏิเสธการจับ หรือ สัมผัสร่างกายจากตำรวจได้ และสามารถบันทึกคลิปวิดีโอได้ แต่สำหรับเหตุการณ์ในคลิป ครอบครัวดังกล่าวก็ยอมรับว่า จอดรถในที่ห้ามจอดจริงๆ แม้จะเป็นเพียงระยะเวลาสั้นๆ 1 นาที ก็ถือว่าเป็นความผิดที่เจ้าหน้าที่สามารถแจ้งข้อกล่าวหาได้ ซึ่งจากคลิปถือว่าตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ค่อนข้างควบคุมอารมณ์ได้ดี และพยายามที่จะอธิบายการกระทำผิดให้ได้รับทราบ แต่ทางคู่กรณีกลับไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้ ด่าทอ และทำร้ายร่างกายตำรวจดังเช่นปรากฎในคลิป กรณีนี้อาจจะมีความผิดเข้าข่าย ดูหมิ่นและต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน มีโทษจำคุกไม่กิน 1 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 20,000 บาท ในส่วนของการใช้กำลังประทุษร้ายมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท

ชมคลิป : เปิดใจเหยื่อ "ครอบครัวหัวร้อน" อ้างจบนิติ มธ. ขู่สารพัด จะเอาค่าเสียหาย "ถูกรถทับเท้า"