นักวิชาการกังวลออกซิเจนในถ้ำหลวงลดลง

วันนี้ (7 ก.ค.61) ดร.สธน วิจารณ์วรรณลักษณ์ อาจารย์ประจำภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยกับทีมข่าวพีพีทีวีว่า ปกติอากาศเรามีออกซิเจนอยู่ที่ประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ เราจะถือว่าขาดออกซิเจนเมื่อต่ำกว่า 19 เปอร์เซ็นต์ แต่รายงานเมื่อวานนี้บอกว่า ระดับออกซิเจนในถ้ำเหลือ 15-16 เปอร์เซ็นต์ เราต้องรอดูว่ามันลดต่ำลงไปหรือไม่ โดยสิ่งที่ตอบได้คือการที่ออกซิเจนลดต่ำลง แสดงว่าในถ้ำไม่มีโพรง หรือช่องต่อที่ด้านนอก หรือช่องที่มีอยู่มันโดนน้ำท่วมไป หากออกซิเจนลดต่ำ 10-14 เปอร์เซ็นต์ จะทำให้คนที่อยู่ในนั้นมีอาการหัวใจเต้นแรง มีอาการมึนงง การทำงานได้ช้าลง มีความผิดพลาดเกินขึ้นได้ แต่ถ้าต่ำกว่า 10 เปอร์เซ็นต์จะหมดสติ ตนก็เป็นห่วงได้สอบถามไปว่า ภายใน 24 ชั่วโมงระดับออกซิเจนได้ลดลงบ้างหรือไม่ ซึ่งคนเราทุกคนก็มีการหายใจ เราก็ใช้ออกซิเจนไปแล้วปล่อยคาร์บอนไดอกไซด์ออกมา ซึ่งหน่วยซีลเขามีเครื่องดูดคาร์บอนไดออกไซด์ได้ แต่ไม่ได้เพิ่มออกซิเจนเข้าไปในโพรงถ้ำ ทุกครั้งที่เราหายใจปริมาณออกซิเจนในถ้ำก็จะลดลงไปเรื่อย

ดร.สธน บอกว่า ออกซิเจนที่เราเติมเข้าไป ไม่น่าจะถึงจุดเนินนมสาว และไม่คิดว่าจะมีท่อที่ยาวขนาด 2 กิโลเมตร และจุดที่เรียกว่ารูมุดที่เป็นจุดเล็กๆที่ยากต่อการดำน้ำอยู่แล้ว หากมีการนำท่อไปอีก ก็จะเพิ่มความลำบากเข้าไปอีก ในการผ่านเข้าออกของนักประดาน้ำ แต่ตอนนี้อาจจะต้องนำถังอากาศที่นักประดาน้ำหายใจ พร้อมกับหน้ากากเต็มใบ เราไม่ได้ใช้ในการดำน้ำ แต่ใช้เพื่อการหายใจเพื่อยืดระยะเวลาที่เขาจะอยู่ในนั้นให้นานขึ้น ส่วนแนวทางของผู้บัญชาการเหตุการณ์ที่บอกว่ามีการลดเจ้าหน้าที่ที่ไม่จำเป็นออกจากถ้ำ เพื่อลดการแย่งอาการกัน

“ปัจจัยที่เป็นอุปสรรคต่อการนำอากาศเข้าไปนั้น คือระยะทางของถ้ำที่ค่อนข้างยาว และตนก็ไม่เห็นภาพด้านในว่าสามแยกไปหาดพัทยา และไปยังเนินนมสาวนั้นต้องดำน้ำตลอดหรือไม่ หรือมีจุดที่จะพักได้บ้าง และก็ไม่แน่ใจว่าทีมช่วยเหลือเขามีแพลนอย่างไร แต่เท่าที่ฟังจากสื่อคือพาเด็กมาถึงโถงสามเลย อาจจะต้องเปลี่ยนเป็นขั้นตอนระยะทางที่เนินนมสาวมาถึงหาดพัทยาน่าจะเป็นโพรงที่มีปริมาตรอากาศเยอะ ในช่วงสั้นๆ ค่อยให้เขาพัก  ส่วนอีกท่ออากาศที่คลานนั้นน่าจะใช้ได้ในช่วงสั้นๆ ไม่เกิน 15 เมตร เพราะว่าถ้าอยู่ใต้น้ำทุกๆ 10 เมตรความกดอากาศมันเพิ่มขึ้น 2 เท่า เราต้องเป่าอัดลมในท่อมากกว่าความกดอากาศ 2 เท่าด้วย และปั๊มลมที่ใช้ต้องเป็นปั๊มที่พลังงานเยอะกว่าปกติ เหตุการณ์นี้อย่างที่ผู้บัญชาการเหตุการณ์บอกว่าภารกิจนี้น่าจะเป็นภารกิจที่ยากที่สุดในโลกแล้ว” ดร.สธน กล่าว