นักวิทย์พบดวงจันทร์บริวารรอบดาวพฤหัสบดีอีก 10 ดวง

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า การค้นพบดังกล่าวเป็นผลงานของทีมนักวิทยาศาสตร์สถาบันคาร์เนกี้ ของสหรัฐฯ ที่พบดวงจันทร์ใหม่ทั้ง 10 ดวงโดยบังเอิญ เมื่อเดือน มี.ค. ปีที่แล้ว ขณะใช้กล้องโทรทรรศน์สำรวจหาวัตถุหรือดาวเคราะห์ขนาดใหญ่ที่อาจอยู่ถัดไปจากดาวพลูโต การค้นพบที่เกิดขึ้นนี้ทำให้จำนวนดวงจันทร์บริวารของดาวพฤหัสบดีที่สำรวจพบแล้วเพิ่มขึ้นเป็น 79 ดวง มากที่สุดในระบบสุริยะจักรวาล ทิ้งห่างอันดับ 2 คือ ดาวเสาร์ ที่ขณะนี้มีดวงจันทร์บริวาร 62 ดวง

สกอต เชพเพิร์ด หัวหน้าทีมสำรวจระบุว่า สาเหตุที่ดวงจันทร์เหล่านี้ไม่เคยถูกค้นพบมาก่อนเป็นเพราะขนาดที่เล็กมากๆ โดยความกว้างไม่เกิน 3 กิโลเมตร และเมื่อไปโคจรใกล้ๆกับวัตถุขนาดใหญ่และสว่างไสวมากอย่างดาวพฤหัสบดี จึงทำให้มองเห็นไม่ชัด แม้จะดูผ่านกล้องดูดาวพลังสูงแล้วก็ตาม

โดยกล้องที่ใช้ในการสำรวจครั้งนี้เป็นกล้องแบบ 520 เมกกะพิกเซล มีความละเอียดสูงกว่ากล้องไอโฟนรุ่นล่าสุดถึง 40 เท่า โดยกล้องดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของกล้องโทรทรรศน์ “วิคเตอร์ เอ็ม บลังโก” ในประเทศชิลี ที่มีศักยภาพในการค้นหาวัตถุที่อาจซ่อนตัวในท้องฟ้า เพราะมีแสงสว่างไม่พอให้ตรวจพบ

สำหรับดวงจันทร์ที่ค้นพบใหม่ทั้ง 10 ดวงนี้ มี 9 ดวงที่อยู่ในวงโคจรชั้นใน และโคจรในทิศทางเดียวกับการหมุนรอบตัวเองของดาวพฤหัสฯ แต่มีหนึ่งดวงที่อยู่ในวงโคจรที่ไกลออกไป และโคจรในทิศทางตรงกันข้าม ลักษณะเหมือนการขับรถสวนเลน ซึ่งมีความเสี่ยงอย่างมากต่อการพุ่งเข้าชนวัตถุอื่นๆ ในวงโคจร โดยทีมงานตั้งชื่อดวงจันทร์นี้ว่า วาเลทูโด ซึ่งเป็นชื่อคุณย่าทวดของเทพเจ้าจูปิเตอร์ ที่โลกตะวันตกนำมาใช้เป็นชื่อของดาวพฤหัสบดี

การค้นพบดวงจันทร์วาเลทูโด อาจช่วยอธิบายได้ว่าเหตุใดดาวพฤหัสฯจึงมีดวงจันทร์บริวารมากมาย โดยเชื่อกันว่าในอดีต ดวงจันทร์บริวารน่าจะมีน้อย และมีขนาดใหญ่กว่านี้ แต่ด้วยลักษณะการโคจรแบบสวนทาง จึงทำให้ทำให้ดวงจันทร์บริวารชนกันจนแตกตัวเป็นวัตถุชิ้นเล็กชิ้นน้อย