ย้าย 3 นายตำรวจ ปทุมธานี ทำสำนวนชันสูตรศพ คดี “น้องหญิง” ล่าช้า

วันนี้(30 ก.ค.61)ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงเวลา14.00 น. พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มาประชุมกับทีมสืบสวน สภ.บางปะอิน และเดินทางกลับไปแล้ว จนกระทั่งมีคำสั่งย้าย 3 นายตำรวจ ใน จ.ปทุมธานี โดย กำชับ ว่าให้ตำรวจให้ทำคดีอย่างรอบรอบให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และให้ สภ.บางปะอินเร่งสรุปสำนวนคดี

ทั้งนี้ 3 นายตำรวจที่ถูกย้าย คือ พ.ต.อ.พีรพล โชติกเสถียร ผู้กำกับการ สภ.เมือง ปทุมธานี, พ.ต.ท.สมยศ ดำจันทร์ รองผู้กำกับการสอบสวน สภ.เมืองปทุมธานี และ พ.ต.ต.ไพรัตน์ วรรณี สารวัตรสอบสวน สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ โดยให้ไปช่วยราชการตำรวจภูธร จ.ปทุมธานี ตั้งแต่วันี้เป็นต้นไป หลังพบว่า สำนวนการชันสูตรพลิกศพ น้องหญิง ซึ่งมีตำรวจ 3 นายนี้ รับผิดชอบ ดำเนินการไปอย่างล่าช้า ไม่เป็นไปตามขั้นตอนและคำสั่ง

โดยหลังจากที่พลตำรวจเอก ศรีวราห์ ได้เดินทางมาประชุม ร่วมกับ พล.ต.ต.ธวัชชัย เมฆประเสริฐสุข ผู้บังคับการกองพิสูจน์หลักฐานกลาง และพล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค1 รวมถึง ชุดพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรบางปะอิน เพื่อร่วมคลี่คลายคดีการเสียชีวิต ของ นางสาวนรีกานต์ ยาวิราช หรือ น้องหญิง วัย 19 ปี ที่ถูกสันนิษฐานว่าเสียด้วยอุบัติเหตุ หลังกระโดดลงจากรถเทรลเลอร์ เป็นเหตุให้เสียชีวิต จนเป็นเหตุให้ญาติญาติ ไม่พอใจในการดำเนินคดีของ สถานีตำรวจภูธร บางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

ประกอบกับช่วงเช้าที่ผ่านมา พลตำรวจเอกศรีวราห์ ได้มีการสอบปากคำ นายสุบิน ยาวิราช พ่อของน้องหญิง ที่กองบังคับการปราบปราม มาบ้างแล้ว ทำให้ในระหว่างการประชุมกำกับในที่ประชุมว่า ให้ทำสำนวนคดี นี้ต้องทำแบบรอบคอบ และกำชับให้ผู้ปฏิบัติงานทำคดีให้เกิดความเป็นธรรมแก่ผู้เสียหาย

ส่วนความคืบหน้าที่สถานีตำรวจภูธรบางปะอินในวันนี้ พบว่า เจ้าของบริษัทรถเทรลเลอร์ ได้นำรถเทรลเลอร์ ของกลางทางคดี ทางส่งมอบให้พนักงานสอบสวนสภ.บางปะอิน เพื่อตรวจสอบเพิ่มเติมแล้ว

โดยหากย้อนไปดูข้อมูล เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยืออาชญากรรม ได้ให้ข้อมูลหนึ่ง ที่สอดคล้องกับเหตุการณ์ในวันนี้ คือ ทาง นายอัจฉริยะ อ้างว่าช่วงเย็นของวานนี้ ทางผกก.สภ.บางปะอิน ได้มีการเชิญตัว พ่อของน้องหญิง และ พยานบุคคล เข้าให้การกับเจ้าหน้าที่ แต่ทางครอบครัวได้ปฎิเสธ และตัดสินใจของความเป็นธรรมจากทางกองบังคับการปราบปราม