เมื่อวันที่ (3 ม.ค. 62) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แผนที่เส้นทาง “พายุปาบึก” ที่กรมอุตุนิยมวิทยานำมาเปิดเผยว่า ตอนนี้ศูนย์กลางพายุอยู่ห่างจากฝั่ง ประมาณ 550 กิโลเมตร และจะค่อยๆเคลื่อนตัวเข้าฝั่งในช่วงค่ำวันพรุ่งนี้ (4ม.ค.) ขณะที่ความเร็วลมสูงสุดยังอยู่ที่ประมาณ 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยหลังจากเมื่อวานนนี้คาดการณ์ว่า จุดอันตรายที่สุด อยู่บริเวณเกาะสมุย เกาะเต่า และเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี
ล่าสุด นายภูเวียง คำประมินทร์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยกับพีพีทีวีว่า ทิศทางของ “พายุปาบึก” เคลื่อนที่ต่ำลงมาบริเวณ จ.นครศรีธรรมราช จึงขอให้ประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อมรับมือกับเหตุฉุกเฉิน
กรมอุตุนิยมวิทยา คาดการณ์ว่า สถานการณ์ฝนที่ตกหนักสะสมหลายวัน อาจทำให้หลายพื้นที่ในภาคใต้เกิดดินสไลด์ ถล่มลงมาจนทำให้ประชาชนหลายพื้นที่ได้รับความเดือดร้อน โดยเฉพาะ จ.นราธิวาส ที่จะเผชิญกับปัญหานี้ก่อน
ขณะที่ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สุทธิศักดิ์ สรลัมพ์ หัวหน้าศูนย์วิจัยและพัฒนาวิศวกรรมปฐพีและฐานรากฯ ม.เกษตรศาสตร์ ระบุว่า จังหวัดนครศรีธรรมราช คือ พื้นที่เสี่ยงดินถล่มและน้ำป่าไหลหลากจากอิทธิพลพายุปาบึกมากที่สุด โดยเฉพาะ “อ.นพพิตำ” เพราะสภาพพื้นที่ชุมชนส่วนใหญ่มีวงล้อมเป็นภูเขา อีกจุดหนึ่งน่าเป็นห่วงคือบริเวณ “เขาหลวง” ฝั่งตะวันออกทั้งหมด เพราะ มีแนวดินสไลด์ น้ำป่าไหลหลาก บ่อยครั้งเวลาฝนตกหนักสะสม
ส่วนจังหวัดที่น่าเป็นห่วงเรื่อง “ดินถล่ม” อย่างเร่งด่วนเวลานี้ คือ จ.นราธิวาส เพราะได้รับผลกระทบจาก “พายุปาบึก” แล้ว สอดคล้องกับที่ นายภูเวียง คำประมินทร์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา