กลุ่มเยาวชนผู้ร่วมก่อตั้งเว็บไซต์ space.co.th ที่เขียนเรื่องราวต่างๆเกี่ยวกับอวกาศและวิทยาศาสตร์ ได้สวมชุดอวกาศ เดินอยู่สวนลุมพินี อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ก่อนจะย้ายไปที่แยกอโศกมนตรี ซึ่งแต่ละจุดที่เยาวชนกลุ่มนี้ไปปรากฏตัวล้วนเป็นจุดที่มีคนพลุกพล่านและเป็นจุดที่มีค่าตรวจวัดฝุ่นละอองเกินมาตรฐานในระดับสูงทั้งสิ้น
โดบนายณัฐนนท์ ดวงสูงเนิน บรรณาธิการบริหารเว็บไซต์ดังกล่าว บอกว่าแม้ชุดอวกาศที่ทางกลุ่มสวมออกมาเดิน ไม่สามารถป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็กได้ แต่ก็อยากใส่มาเพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ให้คนเห็นถึงอันตรายของฝุ่นขนาดเล็ก PM2.5 และต้องการให้รัฐบาลไปดูต่างประเทศเป็นกรณีศึกษา ก่อนจะนำมาตรการต่างๆมาปรับใช้ให้เข้มงวดกว่านี้
สำหรับค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ในเขตพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑล วันนี้เกินค่ามาตรฐานและอยู่ในระดับที่มีผลกระทบต่อสุขภาพทั้ง 42 สถานีตรวจวัด โดยเฉพาะที่เขตบางคอแหลม และคลองเตย ที่เป็นเขตพื้นที่สีแดง มีความเข้มข้นของฝุ่น PM2.5 เกิน 90 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งกรมควบคุมมลพิษคาดการณ์ว่าทุกพื้นที่ยังมีแนวโน้มค่าฝุ่นละอองเพิ่มสูงขึ้นอีก
ขณะที่กรมควบคุมมลพิษ ได้เรียกหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องมาร่วมหารือเกี่ยวกับปัญหานี้ น่าสนใจว่าในที่ประชุมได้หยิบยกเรื่องการใช้มาตรา 9 ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ.2535 ขึ้นมาพูดด้วย ซึ่งในมาตรานี้ได้พูดถึงอำนาจสั่งการนายกรัฐมนตรีที่ทำได้ทันที ต้องดูว่าหลังการประชุมจะมีข้อสรุปหรือมาตรการใหม่ๆออกมาหรือไม่
ด้านพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี วันนี้ออกแถลงการณ์ ยืนยันว่า ไม่ได้นิ่งนอนใจกับปัญหาฝุ่นละออง PM2.5เกินค่ามาตรฐาน และมีความห่วงใยสุขภาพประชาชนเป็นอย่างมาก โดยได้สั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งหาแนวทางบรรเทาปัญหาระยะสั้น อย่างเช่นการเพิ่มความถี่ในการล้างถนน การแจกหน้ากากN95 การตรวจจับควันดำ การแก้ปัญหารถติดขัดในถนนสายหลัก ฯลฯ
นักวิชาการ แนะ ใช้กฎหมายควบคุมแหล่งกำเนิด "ฝุ่นละอองPM 2.5"
กรีนพีซ เสนอ ตั้งวอร์รูม แก้วิกฤต “ฝุ่นละออง PM 2.5”
ส่วนการแก้ปัญหาระยะยาว ส่งเสริมให้รถยนต์ใช้ดีเซล B20 ตรวจรักษาคุณภาพรถยนต์ให้เป็นไปตามมาตรฐานยูโร ส่งเสริมและผลักดันให้ใช้รถโดยสารที่ใช้แก๊สธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง และเร่งรัดการก่อสร้างรถไฟฟ้า พร้อมทั้งโครงข่ายการให้บริการขนส่งสาธารณะให้เชื่อมโยงทุกระบบครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพมหานครโดยเร็ว
