“พปชร.” เผย “บิ๊กตู่” ร่วมดีเบต รอกกต. ชี้ขาด  

ถูกหลายพรรคเรียกร้องให้ร่วมวงประชันวิสัยทัศน์มาตั้งแต่ 8 กุมภาพันธ์ สำหรับ พล.อ.ประยุทธ์ ล่าสุดแม้จะมีกระแสข่าวว่า กกต.มีความเห็นให้หาเสียงหรือร่วมวงดีเบตได้ แต่นายณัฎฐพล ทีปสุวรรณ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ยังคงบอกว่ารอให้กกต.ตอบอย่างเป็นทางการก่อน และดูความเหมาะสม เพราะอาจถูกมองว่าใช้อำนาจในทางไม่เหมาะสม

นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงประเด็นร่วมวงดีเบตของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หลังนายณัฏฐพล และนายโกวิทย์ ธารณา อดีต ส.ส.ประชาธิปัตย์ ที่เพิ่งลาออกจากพรรรค หันมาช่วยนายกฤชนนท์ อัยยปัญหา ผู้สมัคร ส.ส.เขต 28 บางแค พรรคพลังประชารัฐ หาเสียงในตลาดแยกทศกัณฑ์ ถนนพุทธมณฑลสายสอง โดยนายณัฏฐพลบอกว่าได้พูดคุยกับ พล.อ.ประยุทธ์ แล้ว และปรึกษากับ กกต.ว่าทำได้หรือไม่ เพื่อไม่ให้ถูกร้องเรียนว่าใช้อำนาจในทางไม่เหมาะสม แต่ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ไม่สามารถร่วมดีเบต พรรคคนอื่นร่วมวงดีเบตแทน

ขณะที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย วันนี้ลงหาเสียงย่านบางเขนช่วยผู้สมัคร ส.ส.ของพรรรค แสดงความเห็นว่า การที่ กกต.อนุญาตให้ พล.อ.ประยุทธ์ ขึ้นเวทีประชันวิสัยทัศน์ถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะผู้ที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี ต้องแสดงความคิดให้ประชาชนรับทราบ ซึ่งส่วนตัวพร้อมแสดงวิสัยทัศน์ร่วมกับทุกพรรคการเมือง

ส่วนนายจาตุรนต์ ฉายแสง ประธานกรรมการยุทธศาสตร์ พรรคไทยรักษาชาติ ไปช่วยผู้สมัครที่ตลาดทุ่งครุพลาซ่า การเคหะสุขสวัสดิ์ แฟลตทหารเรือ 26 พร้อมพูดถึงมีการจัดดีเบตให้ 54 พรรคการเมืองของ กกต. ว่า ไม่เคยประสบความสำเร็จ ไม่มีประโยชน์ เพราะไม่มีคนฟัง ยกเว้นผู้สนับสนุน และ กกต.ควรจัดแบบเสรี เพราะมีสื่อจำนวนมาก แต่ยังขาดความน่าสนใจ เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ไม่ไปร่วม เพราะจะได้รู้ว่าเมื่อมีคู่แข่งจะพูดอย่างไร เพราะพูดคนเดียวมาตลอดด้านนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ไปช่วยผู้สมัคร ส.ส.สมุทรปราการ หาเสียงที่ตลาดปากน้ำ ตลาดสำโรงเหนือ พร้อมเปิดเผยว่า ไม่กังวลเรื่องถูกร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรค กรณีระบุประวัติคลาดเคลื่อนในเว็บไวต์และเดินหน้าหาเสียงต่อเนื่อง และพรรคกำลังเปิดรับสมัครกลุ่ม "ฟิวเจอร์ลิสต้า" 90,000 คน เพื่อสังเกตการณ์หน่วยเลือกตั้งทั้ง 90,000 หน่วย จาก 350 เขต

ด้ายนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการ สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย โพสต์เฟซบุ๊กว่า พรุ่งนี้เวลา 10.00 น. จะไปร้อง กกต.ให้ตรวจสอบกรณีพรรคอนาคตใหม่โพสต์ประวัตินายธนาธร โดยอ้างว่าเป็นความผิดสำเร็จแล้ว หลังมีพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง ตามมาตรา 159 ต้องระวางโทษจําคุกตั้งแต่ 1 ปี ถึง 10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 2 หมื่นบาทถึง 2 แสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ และศาลจะสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 20 ปี โดย กกต.ต้องทำสำนวนส่งฟ้องศาลเพื่อวินิจฉัยเป็นบรรทัดฐานทางคดีต่อไป

นายศรีสุวรรณยังระบุด้วยว่า จะยื่นให้ กกต.ตรวจสอบกรณีนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ โพสต์เฟซบุ๊ก เมื่อ 18 กุมภาพันธ์ ด้วยข้อความในลักษณะใส่ร้ายด้วยความเท็จหรือไม่ด้วยว่า “รัฐจากส่วนกลางจับมือกับสื่อมวลชนบางกลุ่มผลิตสื่อเพื่อสร้างภาพลักษณ์ให้คนอีสานเป็นคนตลก ไม่มีความรู้...” โดยอ้างว่าเป็นความผิดตามมาตรา 73 (5) ของ พ.ร.ป.การเลือกตั้ง 2561

ไปที่ตลาดสดเทศบาลเมือง จ.นราธิวาส วันนี้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้จัดตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย และนายเจะอามิง โตะตาหยง ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ไปหาเสียงช่วยให้นายมโณ วารีวะณิช พร้อมคาดหวังว่าผู้สมัครของพรรคทั้ง 4 เขตเลือกตั้งจะได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้

วันเดียวกัน ที่ลานเอกชน หน้าวัดโพธิ์ชัย อ.เมือง จ.หนองคาย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานยุทธศาสตร์ปราศรัยหาเสียงพรรคเพื่อไทย ขึ้นเวทีปราศรัย ช่วยหาเสียงให้ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1-3 โดย ร.ต.อ.เฉลิมแสดงความมั่นใจว่าพรรคเพื่อไทยจะได้เก้าอี้ ส.ส.อีสานทั้งหมด และพร้อมดีเบตกับนักการเมืองทุกคน และหากพรรคพลังประชารัฐได้เป็นรัฐบาล ก็จะเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย เป็นรัฐบาลเป็ดง่อย

ส่วนคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสต์ และผู้ท้าชิงนายกรัฐมนตรีลำดับที่ 1 ของพรรคเพื่้อไทย นายพานท้องแท้ ชินวัตร นายอดิษร เพียงเกษ และนายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ เดินทางไปปราศรัยหาเสียงช่วยผู้สมัครพรรคเพื่อไทยที จ.เลย โดยคุณญิงสุดารัตน์กล่าวตอนหนึ่ง คนที่ออกจากพรรคไปแล้วก็ไปเลย ขอและให้ไปไกล โดยการเลือกตั้ง ส.ส.เลยครั้งนี้ถูกจับตามองมากเพราะนายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข และทีมย้ายไปสังกัดพรรคพลังประชารัฐ