“สลากดิจิทัล” เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในสมัยรัฐบาลของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ในการแก้ไขปัญหาการค้าสลากเกินราคาที่เป็นปัญหาเรื้อรังมาหลายสิบปี โดยเปิดให้สำนักงานกองสลากกินแบ่งรัฐบาลเปิดให้ประชาชนสามารถซื้อขายสลากได้ในราคา 80 บาท ผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง ทำให้บรรยากาศการซื้อลอตเตอรี่เป็นไปอย่างคึกคัก ประชาชนจำนวนมากหันกันไปซื้อสลากออนไลน์กันเป็นหลักสิบล้านใบในแต่ละงวด
เปิดขั้นตอนซื้อ “สลากดิจิทัล” ผ่านแอปฯเป๋าตัง จ่ายเงินผ่าน G-Wallet
เปิดวิธีขึ้นเงินรางวัล “สลากดิจิทัล” ผ่านแอปฯเป๋าตัง
แต่การมีสลากดิจิทัลขึ้นมา จะแย่งโควตาผู้ค้าเดิมหรือเกิดการผูกขาดบริการหรือไม่นั้น ทีมข่าวนิวมีเดียได้รวบรวมข้อมูลจาก นางสาวทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในฐานะโฆษกคณะกรรมการการแก้ไขปัญหาผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากการเสนอขาย หรือขายสลากกินแบ่งรัฐบาลในราคาเกินกว่ากำหนด และ กองประชาสัมพันธ์ สำนักสื่อสารองค์กร สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล มีรายละเอียดที่น่าสนใจดังนี้
เปิด 6 ข้อสงสัยขายสลากดิจิทัล ผ่าน “เป๋าตัง”
1.) สลากทั้งหมดที่เปิดให้ประชาชนซื้อมานั้น เอามาจากจำนวนโควตาที่ผู้ค้าเดิมขายเกินราคาและถูกตัดสิทธิจากการนำไปขายต่อให้กับ “ยี่ปั๊ว” จำนวนหลายหมื่นคน ดังนั้นจึงไม่ใช่การแย่งสิทธิของผู้ค้ารายเดิมที่ทำถูกกติกา
2.) โควตาของผู้พิการ หรือผู้ค้าเดิมยังคงอยู่ มีแต่เพียงรายชื่อของคนที่ทำผิดกฎหมายขายสลากให้กับแพลตฟอร์มเกินราคาเท่านั้นที่จะถูกตัดออก ดังนั้นผู้ขายรายเดิมที่ทำตามกติกาและตามกฎหมายสบายใจได้ว่ารัฐบาลไม่สามารถตัดสิทธิหรือริบโควตาได้
3.) พ่อค้าแม่ค้ารายย่อยที่ขายสลากตามแผงที่กังวลว่าสลากที่อยู่ในแผงจะขายไม่ได้ รองโฆษกฯ ย้ำเพิ่มเติมว่า อุปสงค์การซื้อสลากกินแบ่งมีรอบละ 100 ล้านใบ ลูกค้าก็ยังคงกระจายไปยังแผงขายสลากต่างๆ ทั่วประเทศเหมือนเดิม ประชาชนที่ไม่มีแอปเป๋าตังหรือประชาชนโดยทั่วไปจะทยอยไปซื้อตามแผง สลากดิจิทัลจะไม่กระทบผู้ค้ารายย่อยเดิม
4.) ช่วยตัดวงการทำลายการค้าขายหวยแบบแผงที่ซ้ำเติมประชาชน เพราะสลากอยู่บนออนไลน์ตั้งแต่ก่อนรัฐบาลมาแก้ไขราคาหวยแพงให้อยู่บนแอปเป๋าตังแล้ว ไม่ได้เอามาจากแผง ดังนั้นตลาดคนละตลาด คนละกลุ่มลูกค้าที่ซื้อแผง
5.) ทำหน้าที่อำนวยความสะดวกเป็น E-marketplace (พื้นที่ตลาดออนไลน์) ที่ไม่เก็บค่าเช่าแผงออนไลน์ และการันตีความปลอดภัยให้ผู้ค้าและผู้ซื้อสามารถใช้งานได้อย่างราบรื่น
6.) เปิดให้ประชาชนรายใหม่เข้ามาลงทะเบียนเป็นผู้ค้าสลากออนไลน์ ขอเพียงแค่มีคุณสมบัติ คือ ไม่เป็นข้าราชการ ไม่เป็นพระภิกษุ ไม่มีอาชีพเป็นพนักงานที่มีรายได้ประจำ และต้องขายในราคา 80 บาทเท่านั้น ซึ่งตรงนี้ถือเป็นการเปิดโอกาสและกระจายรายได้ให้ประชาชนที่จะได้เป็นผู้ค้าสลากดิจิทัลรายใหม่
ข้อดีของผู้ซื้อสลากดิจิทัล
- ซื้อสลากได้ในราคา 80 บาทแน่นอน
- มีเลขสลากให้เลือกซื้อจำนวนมาก ค้นหาเลขที่ต้องการซื้อได้ง่าย สะดวก รวดเร็ว ไม่ต้องเดินหา
- ตอบโจทย์การใช้ชีวิตยุคดิจิทัล ช่วยลดความเสี่ยงจากการสัมผัสเงินสด และตัวสลาก
- เชื่อถือได้ เพราะเป็นแอปพลิเคชันของรับที่มีความปลอดภัย
- บันทึกข้อมูลสลากที่ซื้อไว้บนแอปฯเป็นหลักฐาน ไม่ต้องกังวล หากสูญหายหรือเรียกร้องสิทธิในตัวสลาก
- มีระบบตรวจสอบรางวัล และแอปพลิเคชันแจ้งเตือนอัตโนมัติ
ข้อดีของผู้ขายสลากดิจิทัล
- ลดค่าใช้จ่ายในการขาย จากเดิมที่อาจขายบนแผงหรือเดินเร่ขาย แต่การขายบนแพลตฟอร์ม ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ
- มีช่องทางและโอกาสในการขายเพิ่มขึ้น เพราะเป็นแหล่งรวมผู้ซื้อจำนวนมาก มีโอกาสถูกเลือกซื้อมากกว่าการวางขายเองตามปกติ
- มีเวลาในการขายมากขึ้น คือ ทุกวันตั้งแต่เวลา 06.00-23.00 น. ยกเว้นวันที่ออกรางวัล จะซื้อขายได้เวลา 06.00-14.00 น.
- ช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน และตอบสนองความต้องการของผู้คนยุคดิจิทัล โดยไม่ต้องลงทุนสร้างแทคโนโลยี หรือแอปพลิเคชันเอง
ขอบคุณข้อมูลจาก : นางสาวทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในฐานะโฆษกคณะกรรมการการแก้ไขปัญหาผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากการเสนอขาย หรือขายสลากกินแบ่งรัฐบาลในราคาเกินกว่ากำหนด และ กองประชาสัมพันธ์ สำนักสื่อสารองค์กร สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล