เจ้าของสารสาสน์ รับ เชิญเด็กออกเพราะพ่อ


โดย PPTV Online

เผยแพร่




หลังมีผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์คนหนึ่ง ร้องเรียนกับทีมข่าว พีพีทีวีว่าถูกโรงเรียนทำหนังสือเชิญให้รีบหาโรงเรียนใหม่ให้ลูก เนื่องจากมีความคิดเป็นปรปักษ์กับโรงเรียน เพราะไม่ยอมหยุดวิจารณ์ ล่าสุดวันนี้ทีมข่าวได้พูดคุยกับทางเจ้าของโรงเรียนเครือสารสาสน์ และได้รับการยืนยันว่า ทางโรงเรียนมีมติเชิญเด็กออกจริง เพราะนับตั้งแต่เกิดเรื่องครูทำร้ายเด็ก โรงเรียนเหมือนถูกชกอยู่ฝ่ายเดียว โดยเฉพาะการเรียกค่าเสียหายที่ไม่เป็นธรรม

คำชี้แจงล่าสุด! จาก 'สารสาสน์' ไม่ไกล่เกลี่ย ให้จบที่ชั้นศาล ผู้ปกครองเรียกร้องสูงเกิน จ่ายไปแล้ว 11...

อัยการนัดเจรจา รร.สารสาสน์-ผู้ปกครอง รอบ2

นายพิบูลย์ ยงค์กมล ประธานอำนวยการโรงเรียนในเครือสารสาสน์ และผู้ก่อตั้งโรงเรียนสารสาสน์ ชี้แจงเรื่องนี้กับทีมข่าวพีพีทีวีผ่านทางโทรศัพท์ว่า ตัวเองรู้เรื่องที่ผู้อำนวยการโรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์มีหนังสือเชิญเด็กหญิงรายหนึ่งออก และให้ผู้ปกครองไปหาโรงเรียนใหม่ และส่วนตัวก็มองว่า “สมควรแล้ว”

เพราะในเมื่อไม่ศรัทธาโรงเรียน ก็ควรจะออกไป ผู้ปกครองจะมาโจมตีทำไม จะมาเรียกร้องปกครองโรงเรียนหรือ โรงเรียนลงทุนไปตั้ง 600-700 ล้าน ทุกวันนี้ก็ยังเป็นหนี้สินอยู่ 2000 กว่าล้าน ถามว่าผู้ปกครองจ่ายเงินเท่าไหร่จะมาปกครองโรงเรียน”

พร้อมถามว่า ถ้าผู้ปกครองไม่ชอบใจโรงเรียนแล้ว จะยังเอาลูกมาเรียนที่นี่ทำไม จะมาหาเรื่อง หาเงินแบล็กเมล์กันหรือไม่ อย่างกรณีที่ผู้ปกครองเรียกค่าเสียหายคนละ 5 ล้านบาท กรณีที่ถูกครูจุ๋มทำร้าย ก็ไม่เห็นด้วย เพราะไม่สมเหตุสมผล โดยนายพิบูลย์ใช้คำว่า “ตบหัวทีจะเอา 5 ล้าน” ซึ่งอาจถือว่าเป็นการเรียกค่าเสียหายเกินจริง และเป็นสาเหตุที่ยังไกล่เกลี่ยค่าเสียหายกันไม่ได้  ซึ่งจริงๆค่าเสียหายส่วนนี้ ควรจะไปเอากับครูจุ๋ม ไม่ใช่มาเรียกร้องกับทางโรงเรียน โดยยกตัวอย่างโรงเรียนรัฐบาล เวลาเกิดเหตุการณ์อะไรไม่ดีขึ้น เช่นข่าวเด็กถูกกระทำชำเรา ก็ไม่เห็นจะมีผู้ปกครองที่ไหนไปเรียกร้องค่าเสียหายกับทางโรงเรียนเลย

เมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ถ้าหากผู้ปกครองคนดังกล่าวไม่ยินยอมเอาลูกย้ายโรงเรียนจะทำอย่างไร เพราะเมื่อวานนี้ผู้ปกครองบอกว่ายังช็อกกับหนังสือที่โรงเรียนส่งมาให้ และยังไม่มีแผนจะพาลูกย้ายโรงเรียน พร้อมมองว่าโรงเรียนกำลังใช้เด็กเป็นเครื่องมือให้ผู้ปกครองปิดปากหยุดวิพากษ์วิจารณ์โรงเรียนหรือไม่

เรื่องนี้นายพิบูลย์ บอกว่า โรงเรียนไม่ได้เป็นฝ่ายมีปัญหา ผู้ปกครองต่างหากที่เป็นฝ่ายสร้างปัญหา เพราะฉะนั้นโรงเรียนจะเอาไว้ทำไม ทุกวันนี้ก็เหมือนกับถูกชกอยู่ฝ่ายเดียวจนน่วมไปหมดแล้วและหากผู้ปกครองยังดึงดันไม่ยอมพาเด็กออก ก็จะแก้เผ็ดด้วยการไม่ให้พาเข้าโรงเรียน จะแจ้งความในข้อหาบุกรุก เพราะผู้ปกครองเล่นแง่กฎหมายมา ทางโรงเรียนก็จะทำบ้าง

ทีมข่าวนำเรื่องนี้ไปสอบถามกับนายอรรถพล ตรึกตรอง เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน หรือ สช.  ว่าโรงเรียนมีสิทธิ์ทำแบบนี้หรือไม่  เลขาธิการ สช. บอกว่า ถ้ามองด้วยใจ ก็น่าเห็นใจทั้งคู่ เพราะผู้ปกครองก็อยากให้โรงเรียนปรับปรุงมาตรการต่างๆให้ดีขึ้น  ขณะที่โรงเรียนเองก็ทำธุรกิจ การไปแสดงความเห็นผ่านโซเชียลฯของผู้ปกครองแบบนั้น ก็ทำให้ชื่อเสียงของโรงเรียนเสียหาย ดังนั้นทางออกเรื่องนี้ ก็ควรจะคุยกันดีๆมากกว่า ถ้าตกลงกันไม่ได้ สช.ก็พร้อมจะเป็นคนกลางให้ แต่ก็เชื่อว่า หากผู้ปกครองไม่พร้อมจะย้ายเด็กออก โรงเรียนคงไม่ใจร้ายจับเด็กโยนออกมา

ขณะที่ อ.พิบูลย์ เปิดเผยกับทีมข่าวด้วยว่า ตอนนี้มีแผนจะปิดแผนกอนุบาลและเนิร์สเซอรี ของโรงเรียนสารสาสน์วิเทศน์ราชพฤกษ์  ซึ่งกำลังประสานงานกับกระทรวงศึกษาธิการว่าต้องทำอย่างไรบ้าง เพราะว่ารับไม่ได้ที่เจอผู้ปกครองมีปัญหาแบบนี้ ส่วนผู้ปกครองก็ไปหาโรงเรียนใหม่เอา ในเมื่อเชื่อคนที่มาปั่นกระแสมากกว่าโรงเรียน และหากยังเจอผู้ปกครองแบบนี้ในชั้นอื่นๆอีก ก็จะปิดตามไปอีก 

โดยนายอรรถพล เลขาธิการ สช. บอกว่าการปิดชั้นอนุบาลนั้นทำได้ เพียงแต่ต้องค่อยๆปิดทีละชั้น ไม่ให้กระทบกับนักเรียนที่เรียนอยู่ โดยใช้วิธีไม่รับเพิ่มในชั้นอนุบาลหนึ่ง และค่อยๆปิดไล่ไปจนเด็กหมดชั้นอนุบาล

นายอรรถพลระบุว่า หลังจากนี้จะเรียกทางโรงเรียนมาสอบถามถึงปัญหาที่เกิดขึ้น โดยอยากให้ทั้งผู้ปกครองและโรงเรียนคำนึงถึงผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นกับตัวเด็กนักเรียนเป็นหลัก ดังนั้นการหันหน้ามาคุยกันน่าจะเป็นทางออก

 

TOP สังคม
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ