กทม.ยันจัดระเบียบสตรีทฟู้ด ถนนเยาวราช-ข้าวสาร แต่ไม่ได้ยกเลิกทำการค้า
นำร่องสตรีทฟู้ด “ข้าวสาร-เยาวราช”
ตลอดสองข้างทางของถนนเยาวราช มีการนำรั้วเหล็กมาตั้งเป็นแนวยาวเพื่อปิดถนน ฝั่งละ 1 เลน ทำให้จากเดิมถนนเยาวราชมีถนนที่เดินรถทางเดียวทั้งหมด 5 เลน ตอนนี้เหลือเพียง 3 เลน แนวทางนี้เป็นไปตามแผนการทดลองโครงการการจัดระเบียบและปรับภูมิทัศน์ถนนเยาวราช ให้เป็นจุดขายด้านการท่องเที่ยวสตรีทฟู้ดของกรุงเทพฯในอนาคต
นายพินิจ กาญจนชูศักดิ์ อดีตสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) พรรคประชาธิปัตย์ เขตสัมพันธวงศ์ เปิดเผยว่า โครงการนี้ ส่งผลกระทบต่อประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณดังกล่าวจำนวนมาก ทั้งร้านขายทอง ธนาคาร ผู้ประกอบการต่างๆ และ โรงพยาบาล ที่สำคัญถนนเยาวราชมีปัญหาการจราจรอยู่แล้ว หากลดช่องจราจรอีกจะยิ่งสร้างปัญหา แม้ก่อนหน้านี้ทางสำนักงานเขตสัมพันธวงศ์ จะทำประชาพิจารณ์เพื่อรับฟังความคิดเห็นของประชาชนแล้วราว 200 คน แต่ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มหาบเร่ แผงลอย ซึ่งพวกเขามองว่าคนที่ได้ประโยชน์คือนักท่องเที่ยว แต่ไม่ใช่ เจ้าของห้างร้านหรือผู้ประกอบการในพื้นที่
โดยแนวทางหลังจากนี้ นายพินิจ พร้อมด้วยนายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ นำข้อเสนอ หารือกับ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในวันที่ 8 มีนาคมนี้ โดยหนึ่งในข้อเสนอคือให้ทบทวนโครงการนี้อีกครั้ง
ขณะที่บรรดาผู้ค้าเจ้าของห้างร้านย่านเยาวราช ส่วนใหญ่ พูดในทางเดียวกัน คือ ได้รับผลกระทบจากการปิดถนนหน้าร้าน แม้จะเป็นแค่ช่วงทดลองโครงการ เช่น เจ๊หย้ง (สงวนชื่อ-สกุลจริง) เจ้าของร้านขายเครื่องหนัง บอกว่า เธอเปิดร้านขายเครื่องหนังมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ จนถึงตอนนี้ร่วม 100 ปี ยอมรับว่าการสนับสนุนการท่องเที่ยวเยาวราชถือเป็นสิ่งที่ดี แต่ไม่เห็นด้วย ที่จะชูให้เยาวราชเป็นถนนสตรีทฟู้ด เพราะเยาวราชมีการค้าขายหลากหลาย ไม่ใช่แค่อาหาร เธอย้ำว่าหลัง หลัง กทม.นำแผงเหล็กมากั้นปิดถนน ลูกค้าเข้าร้านน้อยลง การจราจรติดขัด กังวลว่าหากหากสร้างทางเท้าเพิ่มขึ้น มีร้านค้าแผงลอยเพิ่มขึ้น ก็อาจทำให้การค้าขายของร้านค้าต่างซบเซาลง
โครงการจัดระเบียบและปรับภูมิทัศน์ถนนเยาวราช มี 2 แนวทาง คือ จะปรับปรุงทางเท้าจากเฉลิมบุรี-ราชวงศ์ ระยะทางประมาณ 400 เมตร ทำเสากั้นเหมือนถนนข้าวสาร เพื่อให้เดินได้ง่ายสะดวกขึ้น แนวทางที่ 2 ทำทางเท้าใหม่จากวงเวียนโอเดียน-ถนนราชวงศ์ ระยะทางประมาณ 1.8 กม. ปรับช่องจราจรเป็น 3 เลนเท่ากันทั้งหมด เพิ่มทางเท้าสามารถขายของได้เป็นระเบียบ ประชาชนเดินได้สะดวก โดยความคืบหน้าขณะนี้อยู่ในช่วงการทดลองโครงการและทำประชาพิจารณ์
