กรณีที่มีการแชร์คลิปหญิงสาวคนหนึ่งลงคลิปใน TikTok ซึ่งถ่ายกับเฮลิคอปเตอร์สำนักงานตำรวจแห่งชาติดยสาวคนดังกล่าว ได้ถ่ายตั้งแต่ก่อนขึ้นเครื่อง และขึ้นไปนั่งภายในขึ้นบิน ถ่ายให้เห็นบรรยากาศภายในเฮลิคอปเตอร์ เห็นนักบินที่แต่งกายคล้ายเครื่องแบบนักบินของตำรวจ และถ่ายเห็นทิวทัศน์สวยงาม จากมุมสูง พร้อมติดแฮชแท็ก ความสุข HAPPYDAY HAPPYLIFE ต่อมาทราบว่าเป็นภรรยาของตร.ยศ พ.ต.ท.นายหนึ่งใน จ.อุดรธานี ซึ่งต้นสังกัดสั่งย้ายสารวัตรนายนี้พ้นตำแหน่ง และตั้งคณะกรรมการสืบสวนแล้วนั้น
แชร์ว่อน!ภรรยาสารวัตร โพสต์ชีวิตดี ขึ้นฮ.ตำรวจ ชมวิว สามี พ.ต.ท.แจงแล้ว
ตร.เต้นสั่งสอบด่วน เด้งแล้ว!สารวัตรสืบอุดรฯคลิป ภรรยาโชว์แฮปปี้บน ฮ.ตำรวจ พ่นพิษ
พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.จว.อุดรธานี เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้มีการตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่า ภาพดังกล่าวเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในห้วงวันที่ 29 กันยายน 2562 ตามที่ปรากฎในโซเชียมีเดียนั้น เป็นภรรยาของนายตำรวจท่านหนึ่ง สังกัด กก.สส.ภ.จว.อุดรธานี จริง ส่วนกรณีนำภาพมาลง เท่าที่พูดคุยสอบถามภรรยานายตำรวจท่านนี้ จึงทราบว่าได้นำภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว มาลงในระบบโซเชียลมีเดีย คือ TIKTOK จริง เมื่อวันที่ 18 เมษายน เวลาประมาณ 17.00 น. จนกระทั่งมีข่าวออกมา ทางเจ้าตัวจึงได้ลบภาพออกไป ช่วงเช้าวานนี้
"ผมออกคำสั่งให้นายตำรวจคนดังกล่าวขาดจากหน้าที่เดิม มาประจำ ศปก.และได้ตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง โดยจะพยายามรวบรวมหลักฐานให้เสร็จโดยเร็วที่สุดไม่เกิน 7 วัน เมื่อมีผลการดำเนินการก็จะนำเรียนให้กับผู้บังคับบัญชาทราบต่อไป ซึ่งเรื่องดังกล่าวทางผู้บังคับบัญชาได้แสดงความห่วงใย ให้สืบสวนสอบสวน ให้ความเป็นธรรม หาความกระจ่างให้ชัดเจน และให้พิจารณาตามอำนาจหน้าที่ ซึ่งทาง ผบช.ภ.4 รวมทั้ง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.มีความเป็นห่วง ให้ทำเรื่องนี้ให้กระจ่าง”
"ยืนยันว่าเป็นภาพเก่า เมื่อปี 2562 ที่เราได้ตรวจสอบโดยชัดเจนแล้ว ประกอบกับได้มีการพูดคุยสอบถามทั้งเจ้าตัว และผู้ที่เกี่ยวข้องในเหตุการณ์ ต่างให้การตรงกันว่า เป็นภาพเก่าเกิดขึ้นในห้วงเวลาวันที่ 28-29 กันยายน 2562 แต่อย่างไรก็ตามอาจจะเกิดความไม่เหมาะควร ซึ่งสิ่งที่ไม่เหมาะควรเราก็จะมีการดำเนินการทางวินัยต่อไป"
“ส่วนการที่เพิ่งจะนำภาพและคลิปมาลง ทั้งที่ผ่านไปนานแล้ว ไม่ทราบรายละเอียดในเรื่องของแรงบันดาลใจ ในส่วนของภรรยานายตำรวจท่านนี้ ที่ได้นำมาลงในโซเชียล เราคงต้องพูดคุยสอบถามตามกระบวนการ จะให้ความเป็นธรรมกับทุกคน ในเรื่องแบบนี้ ผบ.ตร.ได้กำชับมาอยู่แล้ว ในเรื่องของการเล่นโซเชียลมีเดีย ตั้งแต่ที่ท่านมารับตำแหน่ง วว่าการเล่นโซเชียลมีเดียต้องเล่นอย่างสร้างสรรค์ และไม่ให้กระทบต่อภาพลักษณ์ของข้าราชการตำรวจ ไม่ว่าจะเป็นแอคเคาท์ส่วนตัว และ แอคเคาท์ของส่วนราชการ ต้องยอมรับว่าท่าน ผบ.ตร.ได้กำชับมาอยู่แล้ว ที่ต้องนำไปสู่การปฏิบัติ แต่เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเรื่องจากภรรยาของนายตำรวจท่านนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นจากตัวนายตำรวจเอง แต่เราก็จะให้ความเป็นธรรมกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น”
พล.ต.ต.พิษณุ ระบุถึงการขออนุญาตคนภายนอกขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปด้วย เรื่องนี้กำลังอยู่ในระหว่างการสอบสวน เพราะผู้ที่เกี่ยวข้องน่าจะเป็นอดีตผู้บังคับบัญชาระดับสูง ก็ได้มีการส่งทีมไปทำการสืบข้อเท็จจริง และไปสอบปากคำ ที่จะให้ความกระจ่าง ต้องขอเวลาอีกเล็กน้อย คงจะได้ความจริงทุกอย่างกระจ่างขึ้น
ทั้งนี้หากพบว่าไม่เหมาะควร ซึ่งก็มีฐานความผิดอยู่แล้ว ในเรื่องของความไม่เหมาะสม แต่ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นโดยตัวภรรยาก็ ขอยืนยันให้ความเป็นธรรมด้วย ส่วนตัวนายตำรวจที่เราต้องมีวินัย มีจรรยาบรรณ มีภาพลักษณ์ มีข้อสั่งการจากผู้บังคับบัญชา ดังนั้นข้อปฏิบัติจึงจำเป็นต้อง มีความละเอียดอ่อนมากกว่าข้าราชการ หรือประชาชนทั่วไป
สั่งขัง 3 วัน ด.ต.ทำคลิปล้อเลียน “บิ๊กตู่”
ด้านพล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ (จตช.) ระบุถึงกรณีที่นายตำรวจคนเดียวกันมีคลิป ตำรวจแต่งเครื่องแบบเต้นล้อเลียนศิลปิน เน็ตไอดอลประเทศเพื่อนบ้าน จนเป็นที่วิจารณ์ถึงความเหมาะสม ว่า ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ติดตามดำเนินการกรณีดังกล่าว การกระทำล้อเลียน ในเครื่องแบบ เป็นการฝ่าฝืนข้อสั่งการ
จเรตำรวจแห่งชาติ ชี้ว่า ผบ.ตร. และ จตช. เพิ่งสั่งการในที่ประชุมบริหาร ตร. เมื่อเดือนมีนาคม 2564 และ ผบ.ตร. มีหนังสือ เมื่อ 2 เมษายน 2564 สั่งการกำชับ ทุกหน่วยให้ยึดแนวทางปฏิบัติการใช้สื่อสังคมออนไลน์ 9 ข้อห้าม และ 5 ข้อที่ควรทำ ให้กวดขัน ระมัดระวัง การแสดงออกในสื่อโซเชียล เช่น Tiktok Facebook Twitter แต่ก็ยังมีการฝ่าฝืน ซึ่งต้องตรวจสอบว่า ผู้บังคับบัญชา ได้ชี้แจง กำชับ ตามที่ ผบ.ตร และ จตช.ได้สั่งการไว้อย่างไร หรือ ชี้แจงทำความเข้าใจดีแล้ว แต่ตัวผู้ปฏิบัติ ไม่สนใจ หรือมีเจตนาฝ่าฝืนอย่างไร ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง ของ ภ.จว.อุดรธานี
พล.ต.อ.วิสนุ ฝากย้ำเตือนข้าราชการตำรวจ ให้ทบทวน แนวทางการใช้สื่อสังคมออนไลน์ ที่สั่งการไปแล้ว โดยมีทั้งเรื่องที่ควรจะทำ 5 ข้อ และ เรื่องที่เป็นข้อห้ามโดยประเภทข้อมูลข่าวสารที่ไม่ควรเผยแพร่ในรูปแบบข้อความ รูปภาพ หรือภาพเคลื่อนไหว 9 ข้อ คือ
1.ข้อมูลที่มีเนื้อหาพาดพิง หรือส่งในทางลบต่อสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.ข้อมูลที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ หรือกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
3.ข้อมูลที่มีลักษณะยั่วยุ เสียดสี บิดเบือนโฆษณา ชวนเชื่อ สร้างความแตกแยกต่อหน่วยงาน องค์กร สถาบัน สังคม รวมถึงการไม่เป็นกลางทางการเมือง
4.ข้อมูลความลับของทางราชการ ตามระเบียบการตำรวจที่กำหนดไว้
5.ข้อมูลที่เข้าข่ายการกระทำผิด ตามประมวลกฎหมายว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับข้อมูลข่าวสารทั้งของราชการและบุคคล รวมถึงการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาและกฎหมายอาญาใดๆ เช่น ภาพลามก อนาจาร เป็นต้น
6.ข้อมูลที่ส่งผลกระทบต่อน้ำหนักความน่าเชื่อถือของพยานหลักฐานทางคดี เกิดผลเสียต่อกระบวนการยุติธรรม รวมถึงส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติภารกิจที่มีความเสี่ยงในเชิงยุทธวิธีและยุทธการ
7.ข้อมูลที่สร้างกระแสทางสังคม หรือก่อให้เกิดความตื่นตกใจโดยไม่ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง และไม่มีหลักฐานยืนยัน
8.ข้อมูลที่เป็นภัยคุกคามต่อระบบสารสนเทศ และเครือข่าย ได้แก่ โปรแกรมไม่พึงประสงค์ หรือ Malware ทุกประเภท
9.ข้อมูลที่ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์อันดีของความเป็นข้าราชการตำรวจ ก่อให้เกิดความขบขัน วิพากษ์วิจารณ์ในเชิงลบ ลดความเชื่อมั่น ศรัทธาต่องานตำรวจ ทั้งที่เป็นปัจเจกบุคคล และองค์กรตำรวจโดยรวม
ซึ่ง การกระทำของนายตำรวจคนดังกล่าว จะเข้าลักษณะการฝ่าฝืนในข้อ 9
ออกกฎห้าม! ข้อมูล 9 ประเภท ตำรวจห้ามโพสต์ ห้ามแชร์ เต้น ตลก คอมเม้นต์ ออกสื่อทำได้แค่ไหน!
คาดโทษ สั่งคุมตำรวจใช้สื่อ เล่น TikTok เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ "จเรใหญ่" สั่งหวดพบเล่นโซเชียลไม่เหมาะสม