ภารกิจผู้กล้า "กลุ่มอาสา" ผลักดันช้างป่าเขาใหญ่ ชีวิตที่อุทิศให้ทั้งคนและช้าง

ปัญหาช้างป่ากับชาวบ้านในพื้นที่เขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่มีมาอย่างต่อเนื่อง จุดเริ่มต้นจากช้างป่าโดนขับไล่ออกจากฝูง เพราะบางตัวมีนิสัยเกเรจนไม่สามารถใช้ชีวิตยู่ร่วมกับโขลงได้ มันจึงจำต้องหนีจากเขตอุทยานลงมาหากิน ในพื้นที่ทำกินของชาวบ้านอำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา โดยเฉพาะช่วงฤดูกาลเพาะปลูกพืชผลการเกษตรอย่างข้าวโพดที่บางปีลงมือปลูก 2 ครั้ง เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยครั้ง จนบางคนยอมรับได้แต่ก็มีจำนวนไม่น้อยที่ไม่เข้าใจ เพราะเล็งเห็นว่านี่ไม่ใช่ที่ของพวกมัน

โขลงช้างป่าเขาใหญ่เดินเล่นกลางถนน เตือนนักท่องเที่ยว ห้ามจอดรถถ่ายรูป

"พี่ดื้อ" ช้างป่าเขาใหญ่ ขึ้นคร่อมหลังคารถเก๋งนักท่องเที่ยว

ทีมข่าว พีพีทีวี นิวมีเดีย ได้ร่วมวงสนทนากับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงทั้งจากเจ้าหน้าที่อุทยาน เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า ฝ่ายปกครอง ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ หรือแม้แต่ "จิตอาสา" กลุ่มเล็ก ๆ ที่ร่วมแก้ไขปัญหานี้มาเข้าปีที่ 4 แล้ว 

ทุกครั้งที่ได้รับแจ้งจากชาวบ้าน เจ้าหน้าที่อุทยานและเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จะรีบไปผลักดันช้างป่าให้ออกนอกพื้นที่ของชาวบ้าน แต่ทว่ากำลังคนมีไม่เพียงพอ จึงต้องอาศัย "จิตอาสา" ร่วมปฏิบัติการทุกครั้ง เพราะการจะผลักดันช้างป่า 1 ตัว ต้องใช้กำลังคนมากกว่า 10 คนขึ้นไป และบางครั้งอาจใช้เวลาทั้งคืน เพราะส่วนใหญ่ช้างป่าจะออกมาช่วงหัวค่ำ และบางตัวอยู่ยาวจนรุ่งสางของอีกวัน

หนึ่งในทีม "จิตอาสา" นายดนัย สุคันธชาติ อายุ 40 ปี หรือพี่บอส ถ่ายทอดประสบการณ์กับทีมข่าวว่า ก่อนจะมาเป็นทีมอาสาพิทักษ์ช้างป่า เจ้าตัวชอบช่วยเหลือสังคมมาก่อนแล้ว เมื่อ 3 ปีทีแล้วได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่ามีรถยนต์ชนช้างป่าได้รับบาดเจ็บหนีหายไป ส่วนคนขับเสียชีวิตคาที่ จึงได้ออกตามหาช้างป่าตัวนั้นพร้อมเจ้าหน้าที่และทีมสัตวแพทย์จนเจอตัวและให้การรักษา จากนั้นได้มีโอกาสร่วมงานกับเจ้าหน้าที่ในการผลักดันช้างป่าบ่อยครั้งจนเกิดความผูกพัน

“ช้างป่า” เดินเล่นกลางถนน หลังปิดอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่

ไม่นานพี่บอสได้ทำเพจเฟซบุ๊กขึ้นมาเพื่อแจ้งข่าวสารเกี่ยวกับช้างป่าเขาใหญ่โดยเฉพาะ ชื่อเพจ : ที่นี่เขาใหญ่ หากวันไหนที่ช้างป่าออกมาเดินเล่นหากิน จะได้แจ้งชาวบ้านให้ได้ทราบและเตรียมตัว ควบคู่กับการออกปฏิบัติการผลักดันช้างป่ากลับเข้าสู่แนวเขตร่วมกับเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่

พี่บอส เล่าต่อว่า การออกปฏิบัติหน้าที่แต่ละครั้ง เมื่อชาวบ้านโทรแจ้งมา พี่บอสจะแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่เพื่อให้ออกมาทำงานร่วมกัน หรือบางครั้งได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่ให้ตามไปสมทบ ความยากง่ายในเนื้องานแต่ละครั้งมีไม่เหมือนกัน อย่างช้างที่เป็นพระเอกของที่นี่คือ "พี่แคระ" จะจำเสียงของพี่บอสกับเจ้าหน้าที่ได้ ก็จะสื่อสารกันรู้เรื่อง บอกให้หยุดก็คือหยุด แต่บางครั้งก็มีนิสัยก้าวร้าวกับชาวบ้านบ้าง

“เจ้างาทอง” ช้างป่าเขาใหญ่นอนอวดโฉมกลางถนน

การผลักดันช้างป่าแต่ละครั้งจะมีชุดลาดตระเวน ชุดเดินเท้า ชุดบล็อกเส้นทาง แต่ละฝ่ายจะทำงานสอดรับกันอย่างเป็นระบบ เมื่อเข้าพื้นที่จนเจอเป้าหมายแล้ว ก็จะเฝ้าดูท่าทีของพวกมันก่อน ก่อนจะทำอย่างหนึ่งอย่างใดต่อไป จากนั้นจะดูแผนที่ในโทรศัพท์มือถือ เพื่อหาถนนในจุดที่ใกล้ที่สุด และดูแนวเขตเพื่อจะได้ผลักดันพวกมันออกจากเขตชุมชนได้ โดยเครื่องมืออุปกรณ์ที่ใช้มีแค่ไฟฉายส่องสว่าง และลูกบอลประทัดไว้ใช้ในบางกรณีเท่านั้น นอกนั้นจะใช้ปากในการสื่อสารพูดคุยกับพวกมัน

พี่บอส อธิบายอีกว่า นอกจากที่จะต้องสื่อสารกับช้างแล้ว สิ่งสำคัญคือยังจะต้องสื่อสารกับชาวบ้านอีกด้วย เพราะบางคนก็ไม่เข้าใจ บางคนยังขวัญผวาไม่รู้ว่าคืนไหนเปิดประตูบ้านมาแล้วเจอช้างป่ายืนต่อหน้า ถ้าโชคดีหน่อยพวกมันก็แค่มาทักทาย แต่ถ้าโชคร้ายก็อาจมีบ้างที่มาพังทำลายข้าวของ กัดกินพืชไร่ต่าง ๆ เพราะเป็นแหล่งอาหารที่สมบูรณ์ของพวกมัน

"ช้างป่า อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ อวดโฉม โพสต์ท่าให้เจ้าหน้าที่ ถ่ายภาพ"

"พยายามสื่อสารกับช้างกับชาวบ้านให้เข้าใจว่า พื้นที่ที่เราอยู่มันติดเขตอุทยานฯ มันก็มีโอกาสที่ช้างจะลงมา ผมพยายามไม่ให้กระทบกระทั่งกัน บางคนเข้าใจบางคนก็ไม่เข้าใจ คืออย่างผมเป็นจิตอาสา จะมีคำถามจากชาวบ้านมา ผมก็ตอบไม่ได้ต้องให้เจ้าหน้าที่ตอบ ว่าเมื่อไหร่จะเอาช้างขึ้นไป ผมเองก็ตอบไม่ได้ ผมทำโดยไม่ได้เงินเดือน ไม่ได้เบี้ยเลี้ยง ออกค่าน้ำมันเอง ออกอะไรเองทุกอย่าง ใครมีอะไรก็เอามากิน อย่างกลางคืนเราอยู่กันดึก อย่างเคสเจ้าแคระอยู่ยันสว่าง เราก็ต้มมาม่ากินให้มันหายหิว เป้าหมายคือเราต้องดูแลช้าง แล้วก็ดูแลประชาชน ดูแลทรัพย์สินไม่ให้ช้างเข้าไปทำลาย..ผมอยากฝากพี่น้องประชาชนให้เป็นกำลังใจเรา ถ้าทีมเรายังอยู่ ยังมีอาสาสมัครอยู่ ผมเชื่อว่าช้างลงมาน้อยลง"  พี่บอส ระบุทิ้งท้าย