เหตุการณ์จากกล้องวงจรปิดโดยมีเจ้าหน้าที่เทศบาลนครปากเกร็ดนำข้าวของผู้เสียหายซึ่งวางกองเอาไว้ที่หน้าแฟลตไปทิ้งโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งในจำนวนนั้นมีเสื้อผ้าและชุดนักเรียนของลูกถูกนำไปทิ้งด้วย จนลูกไม่สามารถไปโรงเรียนได้ นอกจากนี้ยังมีพระเครื่องราคาแพงอีกหลายองค์ รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 4 แสนบาท
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบยังแฟลตการเคหะ อาคาร4 ถนนติวานนท์ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พบกับผู้เสียหายคือ น.ส.กษริฐา แสงเทียนดี อายุ 32 ปี และนายผดุงเดช บาศรี อายุ 44 ปี สองสามีภรรยา พร้อมลูกสาวและลูกชาย
นายกฯ ขอความร่วมมือช่วยกันประหยัดพลังงาน แนะ ใช้รถเมื่อจำเป็นจริง ๆ
น้ำมันแพง ดันสินค้าราคาพุ่ง คาดเงินเฟ้อแตะ 4% ในไตรมาสแรก
โดยเขาได้เปิดเผยเรื่องราว กับผู้สื่อข่าวว่าตนและครอบครัวเช่าแฟลตอยู่ในราคาเดือนละ 1,800 บาท ต่อมาประสบปัญหาค้างจ่ายค่าเช่า 3 เดือนจึงถูกรื้อไล่ที่ จากนั้นจึงได้เก็บข้าวของมากองไว้ที่หน้าแฟลตเพื่อเตรียมหาที่อยู่ใหม่ จากนั้นเมื่อวันที่ 29 ต.ค.ทางเทศบาลนครปากเกร็ด ได้มาขนข้าวของไปทิ้งโดยไม่ได้แจ้งหรือบอกล่วงหน้า ทั้งๆที่จุดตรงนั้นไม่ใช่จุดที่ทิ้งขยะ จึงนำคลิปดังกล่าวไปแจ้งความกับทางตำรวจที่ สภ.ปากเกร็ด เอาไว้แล้ว
ล่าสุดทางตำรวจ สภ.ปากเกร็ดได้เรียกเจรจาไกล่เกลี่ย 3 ฝ่าย คือฝ่ายผู้เสียหาย นิติบุคคลแฟลต และเจ้าหน้าที่เทศบาล ซึ่งปรากฎว่าการเจรจาคุยกันไม่ลงตัว เนื่องจากทางผู้เสียหายยืนยันว่า จะเอาของคืนอย่างเดียวเท่านั้น
แต่ทางนิติบุคลและรปภ.ยืนยันว่า ข้าวของเหล่านี้ไม่ใช่ทรัพย์สินมีค่าอะไร เพราะเป็นเสื้อผ้าและของใช้เก่าๆ ซึ่งก่อนหน้านี้ทางนิติฯได้เคยติดต่อผู้เสียหายให้ไปขนย้ายของอยู่หลายเดือน จนกระทั่งฝนตกเปียกแฉะ ส่งกลิ่นเน่าเหม็น ทำให้ลูกบ้านเดือดร้อน
ชม “ดาวศุกร์”สว่างที่สุดในรอบปี รุ่งเช้า 9 ก.พ. นี้
ลุ้น!น้ำมันปรับตัวหลังราคาตลาดโลกพุ่งรอบ 7 ปี
ขณะที่ทางเทศบาลก็ยืนยันว่าเขาทำตามหน้าที่ หลังมีคนแจ้งเรื่องให้มาเก็บขยะก็ต้องเก็บไปตามหน้าที่ และพอนำขยะไปทิ้งจุดคัดแยกก็ไม่รู้จะไปตามของคืนยังไง สุดท้ายแล้วทำให้การเจรจาไกล่เกลี่ยไม่ลงตัว ซึ่งผู้เสียหายยืนยันที่จะแจ้งความดำเนินคดีกับทางคู่กรณีตามเดิม