เมื่อวันที่ 14 พ.ย.2565 นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แถลงข่าวคดีสำคัญ ที่เกี่ยวกับสำนวนคดีของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล อดีต ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ หรือ อดีตผู้กำกับโจ้ ที่ร่วมกับพวกก่อเหตุรุมทำร้ายร่างกาย ทรมานผู้ต้องหาโดยใช้ถุงคลุมศรีษะ กระทั่งผู้ต้องหาเสียชีวิต
โดยนอกจากคดีทำร้ายร่างกายแล้ว ป.ป.ช.ได้มีมติชี้มูลอดีตผู้กำกับโจ้ร่ำรวยผิดปกติ และขอให้ทรัพย์สิน 32 รายการ มูลค่ากว่า 1,358 ล้านบาท ตกเป็นของแผ่นดิน
ศาลคดีทุจริตฯ ตรวจพยานคดีอดีต "ผู้กำกับโจ้" กำหนด 3 ประเด็น ฆ่ามาวิน หรือไม่
ด่วน! ศาลอาญาทุจริตสั่งจำคุกตลอดชีวิต "อดีตผู้กำกับโจ้" ถุงดำคลุมหัวผู้ต้องหาดับ
ก่อนหน้านี้ ป.ป.ช.ได้ตั้งคณะกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริง พบว่า ผู้ต้องหามีเงินฝากในบัญชีธนาคาร 3 แห่ง 1,243 ล้านบาท บ้าน 2 หลัง ที่ดิน 4 แปลง 5 ไร่ มูลค่า 54 ล้านบาท รถหรู 15 คัน มูลค่า 6.1 ล้านบาท และหนี้สินจากการเช่าซื้อรถยนต์ 13 คัน มูลค่า 53 ล้านบาท รวมทรัพย์สินทั้งหมด 1,358 ล้านบาท
ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิดอดีตผู้กำกับโจ้ร่ำรวยผิดปกติ เพราะไม่สามารถชี้แจงได้ว่าเงินนั้นได้มาโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ และได้ตรวจสอบรายได้เขาแล้วก็เห็นว่าไม่สัมพันธ์กัน
นายนิวัติไชย กล่าวว่า หลังจากมีมติชี้มูลความผิดแล้ว ป.ป.ช.ได้ส่งสำนวนคดีให้อัยการสูงสุดแล้ว เพื่อยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ เพื่อขอให้ศาลสั่งให้ทร้พย์สินตกเป็นของแผ่นดิน และในวันที่ 11 พ.ย.2565 อัยการสูงสุดได้ยื่นคำร้องต่อศาลเรียบร้อยแล้ว สำหรับการยึดทรัพย์สินให้ตกเป็นของแผ่นดิน ป.ป.ช.ยังขอให้ศาล บังคับเอาแก่ทรัพย์สินอื่นของผู้ถูกกล่าวหาได้ภายในกำหนด 10 ปี ซึ่งเป็นการยึดทรัพย์สินตามมูลค่า เพราะอาจจะมีการจำหน่ายถ่ายโอนทรัพย์สินออกไปก่อนหน้านี้
เลขาธิการ ป.ป.ช. กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ป.ป.ช.ได้รับเรื่องของอดีตผู้กำกับโจ้ไว้ตรวจสอบอีกเรื่อง คือ การเบิกจ่ายเงินรางวัลจากกรมศุลกากร กรณีจับกุมการลักลอบนำเข้ารถหรูเข้าราชอาณาจักรไทย ซึ่ง ป.ป.ช.จะตรวจสอบต่อไปว่า เป็นการจับกุมและขอรับเงินราลวัลโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่
