กรณี พ.ต.อ.หญิง วันทนารีย์ กรณ์ชายานันท์ หรือ “หนูนา” ผกก.ฝ่ายความร่วมมือและกิจการระหว่างประเทศ กองการต่างประเทศ ภรรยาของตู้ห่าว และเป็นหลานสาว พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่ถูกจับกุมและโดนคุมตัวอยู่ที่ห้องควบคุมผู้ต้องหา สน.ยานนาวา โดยพบว่า เช้านี้ ตำรวจยังไม่มีการนำตัวมาสอบเพิ่ม ซึ่งทางตำรวจ สน.ยานนาวา คุมเข้มจัดระเบียบสื่อมวลชนที่มาทำข่าว นำแผงกั้นเหล็กมาตั้งบริเวณบริเวณประตูทางเข้าห้องสอบสวนในโรงพัก โดยไม่อนุญาตให้สื่อเข้าไปบันทึกภาพบริเวณด้านใน
ทัพเรือตั้งโต๊ะแถลง หลังพบร่างมนุษย์เพิ่ม คาดอาจเป็นกำลังพลที่สูญหาย
กกท.เผย กองสลากพลัส เจ้าเดียวติดต่อซื้อถ่ายทอดสดอาเซียนคัพ
สำหรับความเคลื่อนไหวตั้งแต่ช่วงเช้าวันนี้ มีรายงานข่าวว่า ทีมทนายของ พ.ต.อ.หญิง วันทนารีย์ เดินทางมาถึงตั้งแต่ช่วง 08.30 น.โดยทีมข่าวได้มีโอกาสพูดคุยด้วย เปิดเผยสั้นๆ เพียงว่า ยังไม่พบ พ.ต.อ.หญิง วันทนารีย์ จึงไม่ทราบว่า พ.ต.อ.หญิง วันทนารีย์ มีท่าทีเครียดกังวลหรือไม่ หลังจากถูกคุมตัวอยู่ในห้องควบคุมผู้ต้องหาของโรงพัก
ซึ่งจากการสังเกตของทีมข่าวพบว่า ระหว่างที่ทีมทนายเข้าพบ พ.ต.อ.หญิง วันทนารีย์ ที่อยู่ในห้องควบคุมผู้ต้องหา ทางทีมทนายถือกระดาษแผ่นหนึ่งระบุว่า “ขอเสื้อผ้าชุดใหม่ เสื้อโปโลคอปกตัวใหญ่ๆ หลวมๆ กางเกงตัวใหม่ด้วยนะ” นอกจากนี้ในใบกระดาษยังเขียนระบุฝากดูแลคนในครอบครัว คาดเป็นกระดาษที่เขียนจาก พ.ต.อ.หญิง วันทนารีย์ เพื่อฝากทีมทนาย
ต่อมามีหนึ่งในทีมทนายออกจากสน. เพื่อไปซื้ออาหารและน้ำดื่ม เพื่อนำกลับมาให้ พ.ต.อ.หญิง วันทนารีย์ นอกจากนั้น ทางทีมทนายยังมีการพูดคุยกับพนักงานสอบสวน คาดว่าน่าจะมีการพูดคุยกันในเรื่องขอประกันตัว
อีกด้านหนึ่ง วันนี้ พล.ต.อ.ดำรงค์ศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้แถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายสำคัญ 2 ราย พร้อมของกลางยาบ้า 4,600,000 เม็ด ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด นอกจากประเด็นนี้ สื่อมวลชนก็ยิงคำถามถึงความคืบหน้าคดีนายตู้ห่าว
โดย ผบ.ตร. ชี้แจงว่า เมื่อวานนี้ออกหมายจับเพิ่มไป 15 หมายจับ จับกุมแล้ว 8 คน เมื่อเช้าอีก 1 คน รวมเป็น 9 คน โดยทั้ง 15 หมายจับแบ่งเป็น 8 หมายแรก ในคดียาเสพติด ช่วยเหลือสนับสนุน มีส่วนร่วมในอาชญากรรมข้ามชาติและการฟอกเงิน ส่วนอีก 7 หมาย เป็นคดีฟอกเงิน
ส่วนจะออกหมายจับอีกไหม หลังจากนี้ถ้าได้ข้อมูลเพิ่มเติมมาก็จะดำเนินการต่อแน่นอน ยืนยันตำรวจและเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายทำงานเต็มที่ให้ทันตามกรอบเวลา ซึ่งผลงานก็ประจักษ์ว่ามีความคืบหน้าตลอด ส่วนจะแจ้งข้อหาฟอกเงินนายตู้ห่าวหรือไม่ ยืนยันว่าถ้าตรวจสอบพยานหลักฐานชัดเจนก็แจ้งได้ทันที
นอกจากนี้ ทีมข่าวพีพีทีวี เลยถามท่าน ผบ.ตร. ถึงฉายา ‘ผบ.ปีชง’ ที่ได้รับมาจากสื่อเมื่อวานนี้ ว่ารู้สึกอย่างไรบ้าง ผบ.ตร. บอกว่า ปีที่ผ่านมาก็เกิดเรื่องราวขึ้นเยอะจริง ไม่ว่าจะเป็นเคสที่หนองบัวลำภู คดีตู้ห่าว เคสเรือหลวงสุโขทัย แต่ที่หนักใจที่สุดคืองานเอเปค 2022 เพราะเป็นงานระดับโลก ก็ต้องพยายามทำออกมาให้ดีที่สุด
ที่ผ่านมาก็พยายามแก้ไขปัญหาไปทีละเรื่อง และยังคงทำงานเต็มที่ทุกวัน ก่อนทิ้งท้ายด้วยอารมณ์ขันกับผู้สื่อข่าวบอกว่า “ปีชง ปี 65 ปีหน้า 66 น่าจะไม่ชงแล้วล่ะ”
ส่วนแผนการทำงานในปีหน้า ผบ.ตร. บอกว่า จะยกระดับการทำงานในทุกด้าน โดยเฉพาะเรื่องยาเสพติด เช่น เน้นจับกุมรายย่อยในพื้นที่ ค้นหาผู้เสพ ผู้มีโอกาสคุ้มคลั่ง ซึ่งในรอบ 2-3 เดือน จับกุมมาได้ 2 แสนกว่าคน ก่อนส่งไปบำบัด เพราะมองว่ารายย่อยเหล่านี้คือกำลังสำคัญที่นำไปสู่อาชญากรรมระดับใหญ่ได้ จึงต้องสกัดกั้นไว้ก่อน
รวมถึงกวดขันสถานบริการ พื้นที่ส่วนตัว วางสายตรวจตรวจสอบอย่างทั่วถึง ขอให้ทุกคนวางใจได้ ก่อนอวยพรปีใหม่ประชาชนคนไทยให้มีสุขภาพแข็งแรง ปลอดภัย จะทำอะไรก็ราบรื่น
- คอนเทนต์พิเศษ
สำหรับคุณ - TOP สังคม
- วิดีโอยอดนิยม
