รศ.ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยและประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงผลสำรวจ ทัศนะและพฤติกรรมการใช้จ่ายในช่วงวันวาเลนไทน์ปี 2566 พบว่า กลุ่มที่ให้ความสำคัญกับวันวาเลนไทน์ มากที่สุดคือ กลุ่ม GenZ อายุ 13 – 23 ปี คาดว่า วาเลนไทน์ปีนี้จะมีเงินสะพัดกว่า 2,389 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2565 กว่า 15 % มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคน 1,848 บาท
คืบคดี ตร.เพื่อนบิ๊กโจ๊ก สั่งลูกน้องอุ้มทำร้าย ใช้บัญชีม้ารับเงิน
ครูพละ สั่ง ม.3 รุมต่อย ม.2 บาดเจ็บ เหตุไม่พอใจใช้เก็บของแต่ทำเมินเฉย
โดยกลุ่มที่ใช้จ่ายมากที่สุด คือ กลุ่ม GenX เฉลี่ยใช้จ่าย 2,130 บาท ต่อคน รองลงมา คือกลุ่ม GenZ 1,812 บาท และ GenY 1,643 บาท และกลับมาเป็นบวกครั้งแรกในรอบ 5 ปี นับตั้งแต่การระบาดของโควิด-19 เมื่อปี 2562
จากการสำรวจพบว่า มีการใช้จ่ายเฉพาะซื้อของสำหรับมอบให้คู่รัก เฉลี่ย 1,100 บาทต่อคน เป็นมูลค่าสูงสุดนับจากปี 2563 โดยประชาชนส่วนใหญ่ 51.6% ซื้อสินค้าเท่าเดิมแต่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น เนื่องจาก สินค้าและบริการแพงขึ้นค่าของชีพสูงขึ้น ขณะที่บางส่วนใช้จ่ายลดลง เนื่องจากรายได้ลดลงไม่พอรายจ่าย และ พบว่ามากกว่าครึ่งที่ไม่ฉลองวันวาเลนไทน์
สาเหตุหนึ่งที่ทำให้คนส่วนใหญ่ยังคงประหยัดการใช้จ่าย รัดเข็มขัด เพราะราคาสินค้าแพง ล่าสุดมีข่าวว่ากลุ่มอาหารแช่แข็ง และ เครื่องดื่มจะปรับขึ้นราคา ตามต้นทุนค่าไฟฟ้าของภาคเอกชนที่สูงขึ้น เป็น 5.33 บาทต่อหน่วย