คดีนี้จะสามารถเอาผิด “นายพล” ได้มากน้อยแค่ไหน เพราะหากย้อนไทม์ไลน์ ก็จะเห็นว่า ทางผู้เสียหาย เดินทางไปพบกับนายพล ตามที่นัดหมายกัน ไม่ได้ถูกบังคับ
ในมุมกฎหมาย นายนิติธร แก้วโต หรือ ทนายเจมส์ บอกว่าคดีที่เกิดขึ้น แบ่งความผิดออกเป็น 3 ส่วน
ส่วนแรกคือความผิดทางอาญา หากดูจากพฤติกรรมของ “นายพล” อาจเข้าข่ายความผิดฐานข่มขืนและอนาจาร แต่กฎหมายล่าสุดระบุไว้ว่าหากเข้าข่ายความผิดข่มขืนจะต้องมีการใช้อวัยวะเพศในการกระทำก่อเหตุ
หนุ่มแฉ! ทหารยศ พล.ท. ร่วมเพศซาดิสต์ ก่อนชวนเสพยา บอบช้ำทั้งกายและใจ
ทบ.สั่งตั้งกรรมการสอบ-สั่งย้ายช่วยราชการ ปมร้องทหารยศนายพล ซาดิสต์
แต่กรณีนี้ผู้เสียหายบอกว่ามีการใช้เซ็กส์ทอยร่วมด้วย จึงอาจเข้าข่ายความผิดฐานอนาจาร แต่ศาลก็ต้องพิจารณาจากหลักฐานว่าผู้เสียหายสมยอมหรือไม่ หากสมยอมแต่แรกมีรถสนิยมเดียวกันก็ถือว่าไม่มีความผิด
แต่หากไม่สมยอม ก็ถือว่า “นายพล” มีความผิดตาม มาตรา 278 ระบุว่า “ผู้ใดกระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่าสิบห้าปีโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ มีโทษจำคุกไม่เกินสิบปี หรือปรับไม่เกินสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”
ส่วนที่สองคือ ทางแพ่ง กรณีที่ ผู้เสียหาย ได้รับบาดเจ็บต้องรักษาตัว ไม่ว่าจะยินยอมหรือไม่ยินยอมก็ตาม ผู้ที่กระทำละเมิดต้องชดใช้ค่าเสียหายค่ารักษาพยาบาลให้กับผู้บาดเจ็บ
และสุดท้ายคือส่วนของโทษทางวินัย ซึ่งทางต้นสังกัดต้องพิจารณาตรวจสอบว่าพฤติกรรมดังกล่าวกระทำความเสื่อมเสียเกียรติของข้าราชการทหารหรือไม่ ซึ่งมีโทษสูงสุดถึงขั้นไล่ออกจากราชการ ส่วนนี้ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของคณะกรรมการ
ส่วนคลิปวิดีโอที่มีบางช่วง “นายพล” พูดลักษณะชักชวนให้ผู้เสียหายใช้ยาเสพติด ทนายเจมส์บอกว่า ตามกฏหมายการชักชวนไม่ถือว่าเข้าข่ายความผิด หรือแม้กระทั่งภายในคลิปวิดีโอที่ “นายพล” พูดว่าตัวเองใช้ยาเสพติด มองว่า หลักฐานจากคลิปวิดีโอเพียงอย่างเดียวไม่สามารถเอาผิดได้ จะต้องมีการตรวจร่างกายอย่างละเอียด เพื่อยืนยันว่ามีการใช้สารเสพติดจริงหรือไม่.