ผ่านมาแล้ว 4 วันแล้ว หลังเกิดเหตุการณ์โกดังพลุระเบิด ทำให้มีชาวบ้านได้รับบาดเจ็บ และ เสียชีวิตจำนวนมาก ล่าสุด เพจดังในพื้นที่นราธิวาส อย่างเพจ Golok Spotlight (โก-ลก สปอตไลท์) ได้ข้อมูลจากชาวบ้านในพื้นที่ ว่าโกดังของร้านนี้ลักลอบเก็บประทัดมานานแล้ว ส่วนเจ้าของคนในพื้นที่รู้จักดีในชื่อ เถ้าแก่ไหว(นายสมปอง) กับ เจ๊หลิน (น.ส.ปิยะนุช) เปิดหน้าร้านขายของเบ็ดเตล็ดบังหน้า แต่ฉากหลังทำธุรกิจค้าขายประทัดและพลุส่งออกมาเลเซีย รายใหญ่ของอำเภอ
ผบ.ตร. สั่งเด้ง 4 ตร.มูโนะ พร้อมตั้งกรรมการตรวจสอบส่วยพลุระเบิด
ย้อนประวัติ เจ้าของโกดังพลุระเบิดนราธิวาส เคยถูกจับปี 59 แต่สั่งไม่ฟ้อง
มีข้อมูลว่าทั้ง 2 คน ถูกชุด กอ.รมน. ของจังหวัด จับกุมในข้อหาซุกซ่อนพลุและประทัดเป็นจำนวนมากเมื่อปี 2559 แต่สุดท้ายก็วิ่งเต้นจนหลุดคดีมาได้ ปัจจุบันจ่ายเงินให้ตำรวจในพื้นที่ คือ สภ.มูโนะ เป็นค่าดูแลโกดังและธุรกิจสีเทา เดือนละ 3-5 หมื่นบาท โดยมีจ่าฟาโร ซึ่งผู้ประกอบการในตลาดมูโนะรู้จักดี เป็นผู้ดำเนินการเก็บเงินส่วนนี้
เพจ Golok Spotlight ยังตั้งข้อสังเกตด้วยว่า เหตุระเบิดเกิดขึ้นหลายวันแล้วแต่ใน สภ.มูโนะ กลับไม่มีความเคลื่อนไหวใด ๆ และเรียกร้องให้มีการตรวจสอบผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด เพราะนี่คือต้นเหตุที่แท้จริงของโศกนาฏกรรมครั้งนี้
ด้านนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ก็ได้ข้อมูลมาตรงกับเพจดัง พร้อมแฉด้วยว่าเมื่อครั้งที่ 2 สามี-ภรรยาเจ้าของโกดังเก็บพลุถูกจับเมื่อปี 2559 ยึดของกลางได้มหาศาลถึง 20 ตัน หรือ 2 หมื่นกิโลกรัม ใน 2 โกดัง แต่สุดท้ายก็หลุดคดี เป็นไปไม่ได้ที่เจ้าหน้าที่ครั้งนี้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่จะไม่รู้เรื่อง
และครั้งนี้มีการปล่อยให้มีโกดังเก็บพลุปริมาณ 5 ตัน ใจกลางชุมชน จนเกิดโศกนาฏกรรม เพราะฉะนั้นจะตัดตอนเอาผิดแค่เจ้าของโกดังไม่ได้ ต้องเอาผิดกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
นอกจากส่วยโกดังเก็บพลุ ในพื้นที่ยังมีธุรกิจสีเทา ธุรกิจผิดกฎหมาย อีกจำนวนมาก ทั้งสินค้าหนีภาษี การค้ามนุษย์ ยาเสพติด พร้อมฝากไปถึง ผบ.ตร.ว่าจะดำเนินอย่างไร หรือจะปล่อยให้เจ้าหน้าที่ กดขี่ รีดไถ รังแกประชาชน จนทำให้คนในพื้นที่รู้สึกหวาดระแวง และไม่ไว้ใจเจ้าหน้าที่รัฐอย่างนี้ต่อไป
ซึ่งวันที่ 3 ส.ค.นี้ นายวิโรจน์ จะจะอภิปรายเรื่องนี้ในสภา หวังเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องอย่าง รมว.มหาดไทย อธิบดีกรมการปกครอง ผบ.ตร. และแม่ทัพภาค 4 จะตระหนักถึงปัญหาส่วยและการรีดไถประชาชน ในพื้นที่ จังหวัดนราธิวาส และ3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และเร่งปราบปรามให้หมดไปโดยเร็ว