จากกรณีส่วยรถบรรทุก-ส่วยสติกเกอร์ ที่กลับมาอีกครั้ง หลังจากเคยเป็นประเด็นร้อนในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา กับสติกเกอร์พระอาทิตย์ยิ้มแฉ่ง ซึ่งล่าสุดวันนี้ ปรากฎสติกเกอร์ตัวเลข แปะกันโจ่งแจ้งแบบเดิม แต่ทำทีเป็นเอาทะเบียนรถตัวเอง มาติดไว้ที่หน้ารถและข้างรถเป็นสัญลักษณ์
โดยภาพสติกเกอร์เลขทะเบียนรถที่ติดอยู่บริเวณด้านหน้าและด้านข้างรถบรรทุก ซึ่งเป็นหลักฐานที่สหพันธ์ขนส่งทางบกแห่งประเทศไทยบอกว่าเป็น สติกเกอร์ส่วยแบบใหม่
ส่วยสติกเกอร์ยังไม่หมด! เปลี่ยนรูปแบบเป็นกลุ่มไลน์ แต่จ่ายเหมือนเดิม
แฉ!“ส่วยสติกเกอร์แท็กซี่” หน้าห้างใหญ่-โรงแรมดัง จ่ายแล้วจอดแช่ได้
ทั้งนี้แหล่งข่าวบอกว่า การเอาสติกเกอร์แบบนี้มาติด เพื่อเป็นสัญลักษณ์ให้เจ้าหน้าที่ด่านเห็น จะได้ไม่เรียกตรวจ ซึ่งข้อมูลนี้ สอดคล้องกับ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ที่บอกว่าตอนนี้การจ่ายส่วยรถบรรทุกมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบ จากที่เป็นสติกเกอร์ติดหน้ารถชัดเจน ก็เปลี่ยนไปติดข้างในตัวรถ หรือ บางครั้งเปลี่ยนรูปแบบเป็นพวงกุญแจสัญลักษณ์ หรือทำเป็นข้อความ หรือหลักฐานที่แสดงถึงการจ่ายส่วยแล้วโชว์ให้เจ้าหน้าที่ หรือ บางครั้งก็จะมีการตั้งกลุ่ม LINE แชร์ข้อมูลการจ่ายเงินลงในกลุ่ม
โดยนายวิโรจน์ ย้ำว่า ส่วนใหญ่การจ่ายส่วย เป็นการสมัครใจจ่าย ไม่ใช่การรีดไถเหมือนก่อนหน้านี้ จึงมองว่าหากไล่เอาผิดแบบแมวจับหนู ปัญหาเรื่องการเรียกรับผลประโยชน์คงไม่มีทางหมดไป
ดังนั้นในฐานะฝ่ายค้าน พรรคก้าวไกลยังคงมีเป้าหมายจัดการเรื่องส่วย การเรียกรับผลประโยชน์ของเจ้าหน้าที่ โดยจะยื่นสภาตั้งกรรมาธิการวิสามัญ เพื่อรวบรวมกฎกระทรวง ระเบียบ ประกาศคำสั่ง ที่เป็นช่องว่างให้เจ้าหน้าที่ใช้ในการเรียกรับผลประโยชน์อย่างไม่เป็นธรรม ก่อนนำเสนอกระทรวงคมนาคมเพื่อปรับแก้ทบทวนกฎหมายใหม่
แต่ก็ยอมรับว่า การจะเดินหน้าเรื่องนี้ไม่ง่าย เพราะ แค่เริ่มต้นก็ยากแล้ว อย่างการตั้งกรรมาธิการ รัฐมนตรีกระทรวงต่างๆก็พยายามส่งคนของตัวเองมานั่งในกรรมาธิการคณะที่เกี่ยวข้องซึ่งหากปล่อยไปจะทำให้การตรวจสอบยากขึ้น ในขณะเดียวกันในฐานะฝ่ายค้านการตั้งกรรมาธิการเพื่อแก้ไขเรื่องนี้ก็ยังคงเป็นปัญหา เพราะฝ่ายรัฐบาลพยายามเข้ามาแทรกแซง โดยให้คนของตัวเองมานั่งเป็นประธานคณะกรรมาธิการ ซึ่งทำให้อำนาจการตรวจสอบถ่วงดุลรัฐบาลน้อยลง
ส่วนกรณีที่มีรายงานว่า มีตำรวจทางหลวง 6 นายมีส่วนเกี่ยวข้องกับส่วยรถบรรทุก ถูกดำเนินคดี จากทั้งหมด 40 คนนั้น นายวิโรจน์ มองว่า ส่วยสติกเกอร์รถบรรทุกมีมูลค่าหลังหมื่นล้านบาท แต่พอเข้าสู่กระบวนการจับกลุ่ม กลับพบเพียงตำรวจชั้น ประทวน 4 นาย และ สัญญาบัตร ระดับสารวัตร 2 นาย ที่กระทำผิดในขบวนการทุจริตนี้ ส่วนตำรวจพื้นที่ ทั้ง ตำรวจจราจร เจ้าหน้าที่ด่านชั่ง และตำรวจระดับผู้บังคับการกลับไม่รู้เรื่องอะไรเลย ซึ่งมองว่าแบบนี้เป็นการช่วยเหลือกัน
นายวิโรจน์ บอกว่า ไม่ใช่แค่เรื่องส่วยรถบรรทุกเท่านั้นที่ต้องเร่งแก้ไข เพราะการเรียกรับผลประโยชน์ ของเจ้าหน้าที่รัฐยังพบเห็นอยู่อีกหลายหน่วยงาน เช่น การเสียเงินค่าโอนบ้าน เป็นเงินส่วนต่างให้กรมที่ดิน การออกรถป้ายแดงก็ต้องไปเสียเงินตรวจสภาพรถ ซึ่งเหล่านี้มองว่าเป็นการจ่ายส่วยทั้งสิ้น
โปรแกรมวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์เอเชีย AVC 2023 ไทย พบ จีน รอบชิงชนะเลิศ
ประกาศฉบับที่ 21 เตือน! 34 จังหวัด “ฝนตกหนักถึงหนักมาก”
ออกหมายจับ "อิทธิพล คุณปลื้ม" คดีออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคารมิชอบ
