สั่งเข้มชายแดน เชื่อ "เสี่ยแป้ง" ยังอยู่ในไทย

วันที่ 24 ต.ค. 2566 พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ รักษาการผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อม พล.ต.ต.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช ประชุมชุดติดตามไล่ล่า “เสี่ยแป้ง” เพื่อสรุปความคืบหน้า โดยเน้นย้ำให้คณะทำงานรวบรวมพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ทั้งกล้องวงจรปิด และรายละเอียดการใช้โทรศัพท์ เพื่อหาความเชื่อมโยงของผู้ร่วมขบวนการ และติดตามตัวผู้ต้องหา

นาทีแหกคุก เสี่ยแป้ง นาโหนด นักโทษหลายคดีใหญ่ในภาคใต้ ผบ.ตร.สั่งไล่ล่า

เปิดโทษผู้คุมราชทัณฑ์ หากช่วย “เสี่ยแป้ง นาโหนด” หนีจากโรงพยาบาล

หลังใช้เวลาประชุมประมาณ 1 ชั่วโมง พลตำรวจโทอิทธิพล ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า ขณะนี้ตำรวจกระจายกำลังติดตามหาเบาะแสของ “เสี่ยแป้ง” และลูกน้องอีก 2 คน ทั้งในพื้นที่จังหวัดพัทลุง ตรัง และสตูล ส่วนเส้นทางการหลบหนีของผู้ต้องหานั้น ยังไม่สามารถยืนยันได้ อยู่ระหว่างตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด 

สำหรับประเด็นว่ามีการพบรถต้องสงสัย บริเวณท่าเทียบเรือ จังหวัดสตูลนั้น ยังไม่มีการยืนยันชัดเจนว่าตกลงแล้ว ใช่รถของผู้ต้องหาหรือ ซึ่งข้อมูลนี้ก็ทำให้หลายคนสันนิษฐานว่า “เสี่ยแป้ง” อาจจะหลบหนีออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านแล้วหรือไม่  ทีมข่าวพบว่า จังหวัดสตูลมีชายแดนเชื่อมต่อกับมาเลเซียอยู่หลายจุดด้วยกัน แต่จุดหลักๆ มี 3 ด่าน คือด่านตำมะลัง ด่านเกาะหลีเป๊ะ และด่าน ตม.วังประจัน ซึ่งทั้งแห่งเป็นเขตแดนเชื่อมรัฐเปอร์ลิส และรัฐเคดาห์ ประเทศมาเลเซีย

ส่วนเส้นทางธรรมชาติที่สามารถข้ามไปยังประเทศมาเลเซียได้นั้น มีอยู่หลายจุด เพราะพื้นที่ของจังหวัดสตูล มีคลองทั้งเล็กและใหญ่ที่เชื่อมไปออกทะเลและข้ามไปยังมาเลเซียได้

แต่จุดหลักๆ ที่มักมีการข้ามไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เช่น พื้นที่ตำบลตำมะลัง และ ตำบลปูยู อำเภอเมืองสตูล ที่สามารถข้ามไปรัฐเปอร์ลิสได้ โดยเฉพาะตำบลปูยู ซึ่งเป็นพื้นที่เกาะใกล้กับประเทศเพื่อนบ้านมากสุด ระยะห่างเพียง 7- 8 กิโลเมตร หากนั่งเรือหางยาวไปจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงเศษๆ 

ส่วนช่องทางธรรมชาติ บริเวณ ต.วังประจัน อ.ควนโดน เป็นเส้นทางที่ขบวนการมักใช้ลักลอบขนกระท่อมจากมาเลเซียเข้าไทย ระยะทางประมาณ 500 เมตร แต่ต้องปีนเขาเข้าไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้ต้องใช้เวลามากพอสมควร และเป็นจุดอันตราย

ด้าน พ.ต.อ.พงศ์ปณต ชูแก้ว ผู้กำกับกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการติดตามตัว “เสี่ยแป้ง” ว่าตำรวจเร่งไล่ล่าตัวเสี่ยแป้งให้ได้เร็วที่สุด  โดยกระจายกำลังของตำรวจกองปราบทั่วจังหวัดสตูล ปิดล้อมเส้นทางที่คาดว่าหลบหนี แต่ยังไม่สามารถให้รายละเอียดข้อมูลอะไรได้มาก เพราะยังไม่มีความชัดเจน

ขณะที่จากการสืบสวน ยังพบว่า “เสี่ยแป้ง” เคยมีพฤติกรรมแสร้งแกล้งป่วยมาแล้ว ตอนที่อยู่ในเรือนจำพัทลุง ซึ่ง “เสี่ยแป้ง” แกล้งป่วยระหว่างขึ้นศาล ก่อนถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลพัทลุงถึง 2  ครั้ง  แต่ขณะที่รักษาตัวในโรงพยาบาลตำรวจส่งกำลังควบคุมดูแลเข้มงวด 24 ชั่วโมง ทำให้ “เสี่ยแป้ง” หลบหนีไม่ได้ 

และช่วงที่ “เสี่ยแป้ง” ถูกนำตัวไปควบคุมที่เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช ทางเจ้าหน้าที่เรือนจำกลางพัทลุง ก็เคยเตือนเจ้าหน้าที่เรือนจำกลางนครศรีธรรมราชไปแล้ว ให้เฝ้าระวังอย่าประมาท  จนมาเกิดเหตุนี้ขึ้น.

ครม.เคาะ วันหยุดปีใหม่ ตั้งแต่ 29 ธ.ค.66-1 ม.ค. 67

แพร่ประกาศ "โรคต้องห้าม" เป็นข้าราชการสำนักงาน ป.ป.ช.

แรงไม่หยุดฉุดไม่อยู่ “สัปเหร่อ” โกยรายได้ทะลวง 500 ล้านบาท ในเวลา 2 สัปดาห์