ออกหมายจับเพิ่ม ผู้คุมคนเปลี่ยนโซ่ตรวน "เสี่ยแป้ง"

เผยแพร่ 4 พ.ย. 2566 ,16:36น.

ศาลออกหมายจับผู้คุมเรือนจำเพิ่มอีก 1 คน เป็นคนเปลี่ยนโซ่ตรวจ หลังถูกสงสัยพันธนาการไม่แน่นหนา เพื่อเอื้อประโยชน์ให้ “เสี่ยแป้ง” หลบหนี ขณะที่ตำรวจมั่นใจหลักฐานมัดแน่น พบเส้นทางการเงินและโทรศัพท์

เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์คนล่าสุดที่ ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 8 นครศรีธรรมราช อนุมัติออกหมายจับ คือ นายวีระชัย หนูด้วง เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ส่วนควบคุมเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ทำหนังสือแจ้งไปยังกรมราชทัณฑ์ เพื่อให้สั่งการให้เจ้าหน้าที่คนนี้เข้ามอบตัว

สำหรับการออกหมายจับครั้งนี้ทำให้ มีเจ้าหน้าที่เรือนจำถูกออกหมายจับแล้ว 3 คนด้วยกันก็คือ นายวรินทร ทองประจง,นายเอกลักษณ์ ไชยภารณ์ และนายวีระชัย หนูด้วง เป็นคนที่สาม

ออกหมายจับเมีย"นายบิ๊ก"พบโยงช่วย"เสี่ยแป้ง"

ตร.คาด"เสี่ยแป้ง"กับพวกกบดานในแนวเขตป่ารักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาบรรทัด

โดย นายวีระชัย ถูกระบุว่าเป็นคนที่เข้าไปเปลี่ยนโซ่ตรวนให้ “เสี่ยแป้ง” ในช่วงกลางวันของวันที่ 21 ต.ค. และจากข้อมูลของ “น.ส.ไหม” คนเฝ้าไข้ที่ถูกจับกุมตั้งแต่แรกให้การพาดพิงว่า มีการเปลี่ยนโซ่ตรวจ โดยพันธนาการแบบหลวม ๆ ที่อาจะเป็นการเอื้อประโยชน์ให้ “เสี่ยแป้ง” หลบหนีได้ ประกอบกับการรวบรวมพยานหลักฐานทางเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง จึงออกหมายจับเป็นคนล่าสุด

ขณะที่ช่วงเช้าวันนี้ 4 พ.ย. 2566 นายนายวรินทร และนายเอกลักษณ์ ผู้คุมที่ถูกออกหมายจับก่อนหน้านี้ พร้อมกับทนายความ ประสานเข้าพบตำรวจ เพื่อเข้ามอบตัวสู้คดี โดยไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวเข้าบันทึกภาพ

ขณะที่ นายสิทธิ สุธีวงศ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ และในฐานะโฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า ได้รับทราบจากเรือนจำกลางนครศรีธรรมราชแล้วว่า มีเจ้าหน้าที่ถูกออกหมายจับเพิ่มอีก 1 คน คือ นายวีระชัย

การตรวจสอบข้อมูล พบว่า นายวีระชัย กับ ผู้คุมอีก 1 คน เป็นเจ้าหน้าที่ในเวรผลัดเช้า ในช่วงเวลา 08.30 – 16.30 น. ซึ่งตอนนี้ออกหมายจับเพียงนายวีระชัย ส่วนผู้คุมอีก 2 คนที่ถูกออกหมายจับไปก่อนหน้านี้ เป็นเวรผลัดบ่าย เวลา 16.30-08.30 น. ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เสี่ยแป้งหลบหนี

เบื้องต้นคณะกรรมการราชทัณฑ์สรุปผลตรวจสอบข้อเท็จจริง เสนออธิบดีกรมราชทัณฑ์ และต้องมีการสอบสวนเชิงลึกเพิ่มเติม เพราะจากข้อมูลพบผู้คุมทั้งสองผลัดปฏิบัติหน้าที่บกพร่องแน่นอน และอยู่ระหว่างดำเนินการของกรมราชทัณฑ์ แต่ทางตำรวจได้ดำเนินการออกหมายจับผู้คุมเรือนจำ 2 คนแรกก่อน และขยายผลออกหมายจับเพิ่มเติม

ขณะเดียวกัน ทางกรมราชทัณฑ์ก็รอผลสอบสวนจากทางตำรวจด้วย เพราะมีข้อมูลเชิงลึกมากกว่า โดยมีพยานหลักฐานที่เป็นทั้งกล้องวงจรปิด และเส้นทางการเงินต่างๆ ซึ่งกรมราชทัณฑ์ไม่ได้สอบสวนในส่วนนี้.