ผวา! อดีตสามีขู่ฆ่ายกครัว อ้างรู้จัก - สนิท กับ "บิ๊กต่อ"

ภาพวงจรปิด หน้าบ้านของ น.ส.กัลยา เป็นจังหวะที่ อดีตสามีของเธอ ขับรถมาที่บ้าน ก่อนจะเดินลงมาพร้อมกับ ไม้เบสบอล ทุบรถที่จอดที่หน้าบ้าน พร้อมพูดท้าทาย บอกว่า “ให้ออกมาเจอ”

น.ส.กัลยา ยังเล่าอีกว่า อดีตสามี มีพฤติกรรม อ้างชื่อ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ว่า รู้จักกันพร้อมเล่าเหตุการณ์ว่า อดีตสามี เคยเจอกับแฟนใหม่เธอ จะใช้ไม้เบสบอลตีศีรษะแฟนใหม่ แต่แฟนใหม่เธอใช้แขนกันไว้ จากนั้นก็ยื้อกันไปมาพักใหญ่  

 

 

สุดท้ายอดีตสามีเสียท่า จึงบอกว่ายอมแล้วและล่าถอยไป แต่ก็ยังไม่วาย พูดส่งท้าย บอกว่า  “รู้จักบิ๊กต่อไหม ให้ระวังตัวดีๆ” น.ส.กัลยา บอกว่า อดีตสามีมักจะอ้างว่ารู้จัก “บิ๊กต่อ” ซึ่งก็ไม่ทราบว่ารู้จักจริงหรือไม่ แต่อดีตสามีเคยบอกว่าเขามีลูกน้อง และรู้จักผู้มีอิทธิพลเยอะ

น.ส.กัลยา ยังโชว์ภาพแชต ที่อดีตสามี ข่มขู่ บอกว่า เธอและแฟนใหม่ ชะตาขาดแล้ว ให้รอรับดีดี ขณะที่ เธอโต้ตอบกลับไปว่า เลิกกันนานแล้วจะมาวุ่นวายทำไม 

ส่วนอดีตสามีบอกว่า จะทำให้แฟนใหม่เธอ หายสาบสูญไป ส่วนตัวเธอ จะทำให้พิการ พร้อมถามเธอว่าคิดถึงลูกบ้างหรือไม่ที่มีแฟนใหม่ 

น.ส.กัลยา ยืนยันว่า เธอคบหากับอดีตสามีคนนี้มาได้ 4-5 ปี จนกระทั่งมีลูกสาวด้วยกัน 1 คน ตอนนี้อายุ 5 ขวบ ต่อมาจับได้ว่าอดีตสามีมีเมียมีลูกอยู่แล้ว แต่มาคบซ้อนกับเธอ จึงเลิกรากันไปได้ราว 2 ปีแล้ว ซึ่งอดีตสามียังคงแวะเวียนมาเยี่ยมลูกอยู่เรื่อยๆ แต่ที่ผ่านมาก็ไม่เคยมาง้อขอคืนดี จนกระทั่งอดีตสามี ทราบว่า เธอพาแฟนใหม่มาอยู่ที่บ้าน ก็เริ่มข่มขู่

น.ส.กัลยา บอกว่า จริงๆ ก่อนจะมีลูกกับอดีตสามี เธอมีลูกติดอีก 1 คน เป็นผู้หญิง ตอนนี้อายุ 15 ปี ล่าสุด อดีตสามีเธอคนที่มีปัญหา โทรขู่ลูกสาวเธอ

“บอกว่า ให้ดูแม่ดีๆ ไม่รู้เขาจะอยู่ได้กี่วัน เดี๋ยวจะเข้ามากราดยิงที่บ้าน ทำให้บ้านเป็นนรก”
 
ทั้งนี้ น.ส.กัลยา ไปแจ้งความดำเนินคดีกับอดีตสามี ในข้อหา บุกรุกเคหสถานในยามวิกาล และ ทำให้เสียทรัพย์ ซึ่งตำรวจ บอกว่าได้แจ้งข้อหาและส่งสำนวนให้ศาลแล้ว แต่ส่วนตัวยังไม่ได้รับเอกสารนัดหมายใดๆ จากทางศาล

โดยก่อนที่อดีตสามีจะเข้ามาบุกบ้าน ได้โทรแจ้งตำรวจแล้วเพราะเจ้าตัวโทรมาเตือนก่อนว่าจะเข้ามา แต่ตำรวจบอกว่า ให้เขามาก่อนแล้วค่อยแจ้ง จนสุดท้ายอดีตสามีเข้ามาที่บ้านจริงๆ ตอนนี้อยากให้นายเอกภพช่วยให้ความเป็นธรรม ให้อดีตสามีเข้าคุก เพราะทุกวันนี้อยู่อย่างหวาดระแวง และต้องหลบหนีไม่กล้ากลับเข้าบ้านตัวเอง 

ด้านนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ระบุว่า เรื่องนี้ไม่ซับซ้อน โดยเชื่อว่าการที่อดีตสามีอ้างว่ารู้จักกับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเป็นการแอบอ้างมากกว่า และถึงแม้จะรู้จักกันจริงก็ต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย 

ส่วนตัวมองว่า ปัญหาตอนนี้อยู่ที่ผู้เสียหายกลับบ้านไม่ได้ ซึ่งต้องถามกับ สน.ท่าข้าม เจ้าของพื้นที่ ว่า ทำไมโดยหลังจากนี้อาจจะต้องพูดคุยกับ ผกก.สน.ท่าข้าม จัดสายตรวจให้ผู้เสียหายสามารถกลับไปอยู่บ้านของตัวเองได้