ยังคงเป็นเรื่องที่มีให้เห็นบ่อยครั้ง สำหรับครูลงโทษเด็กที่กลายเป็นการใช้ความรุนแรงจนเข้าขั้นทำร้ายร้างกาย โดยล่าสุดเกิดกรณีแม่ร้องลูกชายวัย 7 ขวบ โดนคุณครูประจำชั้นลงโทษตีจนหลังช้ำ
ซึ่งล่าสุดนัดเคลียร์กัน โดยคุณครูน้ำตาไหลยอมรับผิดทำโทษเด็กจริง เพราะเด็กไม่ไม่ส่งการบ้าน ก่อนที่ครูและแม่เด็ก จะกอดกันร้องไห้ โดยคุณครูพยายามที่จะขอโทษแม่เด็ก ว่าไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งแม่เด็กก็เห็นใจ หลังครูยอมขอโทษ และทราบว่าตัวครูเองก็กำลังตั้งท้องอยู่ด้วย
สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ ครูใช้เข็มทิ่มปากนักเรียน 36 คน
ย้ายโรงเรียนเถอะ ผู้ปกครองหัวจะปวด ครูสอนลูก “Major” แปลว่า “โรงหนัง”
โดยแม่เด็กชายวัย 7 ขวบ เล่าย้อนเหตุการณ์ เมื่อวันที่ 8 มี.ค.2567 ระหว่างที่กำลังป้อนข้าวลูกชาย เห็นรอยช้ำบริเวณไหล่และหลังด้ายซ้าย จึงสอบถามว่าไปโดนอะไรมา แต่ลูกชายอ้างว่าโดนมดกัด แต่เธอเองไม่ปักใจเชื่อ พยายามถามแต่ลูกชายเธอก็ไม่ยอมบอก จึงโทรไปถามคุณครูประจำชั้น โดยคุณครูยอมรับว่าเป็นคนทำโทษ เพราะลูกไม่ส่งการบ้าน
แม่เด็ก บอกอีกว่าหลังจากนั้นติดต่อไปที่โรงเรียนของลูก ทางโรงเรียนรับผิดชอบโดยการให้ค่ารักษาพยาบาลมา 2,000 บาท และทางผู้อำนวยการโรงเรียนให้เพิ่มมาอีก 1,000 บาท เป็นเงิน 3,000 บาท หลังจากที่ให้เงินมาแล้ว ผู้อำนวยการโรงเรียนขอให้เธอไม่แจ้งความเอาเรื่องคุณครูที่ทำโทษเด็ก
จากนั้นผู้อำนวยการโรงเรียน ไปพบญาติของเธอเพื่อกดดันให้เธอยอมความ ไม่เอาเรื่องครู จนญาติโทรมาต่อว่าเธอ และผู้อำนวยการโรงเรียนยังขู่อีกว่า จะแจ้งความดำเนินคดีกับเธอในข้อหาคุกคาม และกรรโชกทรัพย์
ด้านครูคู่กรณี ยอมรับว่าลงโทษเด็กจริง โดยการใช้ฝ่ามือตีเข้าที่กลางหลัง เพราะไม่ได้ส่งการบ้าน ซึ่งเมื่อถามเหตุผล เด็กอ้างว่าไม่ทำการบ้านเพราะไม่มีผู้ปกครองสอยให้ จึงพยายามจะสอนให้ แต่เด็กมีท่าทีปฏิเสธ และอ้างว่าไม่มียางลบบ้าง ดินสอบ้าง อย่างโน่นนี่เพราะไม่อยากทำการบ้าน จึงลงโทษด้วยการตีไป 4 ครั้ง ยืนยันว่าตนเอง หรือผู้อำนวยการโรงเรียน ไม่ได้ติดต่อไปยังญาติของแม่เด็กให้มากดดัน
ด้านนางชลิดา พะละมาตย์ ประธานกลุ่มเป็นหนึ่ง เผยว่า เรื่องนี้แม่เด็กยังรู็สึกไม่สบายใจในการเจรจา เนื่องจากไม่ทราบมาก่อนว่า ทางผู้อำนวยการโรงเรียนจะนำญาติของเด็กซึ่งไม่ถูกกันกับแม่เด็ก เข้ามาพูดคุยไกล่เกลี่ยซึ่งเป็นการกดดันแม่เด็ก และยังขู่แจ้งความเอาผิดกับแม่เด็ก ที่ออกมาปกป้องลูกซึ่งเธอมองว่าเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง และจะทำหนังสือร้องไปยังกระทรวงศึกษาธิการให้ตรวจสอบพฤติกรรม
ทีมข่าวติดต่อพูดคุยกับยายของเด็ก 7 ขวบ ผ่านทางโทรศัพท์ ยายยืนยันว่าที่ผ่านมาไม่ได้มีปัญหาอะไรกับลูกสาว (แม่เด็ก) และไม่ทราบว่าเพราะอะไรลูกสาวจึงให้ข่าวไปในลักษณะว่ามีปัญหากันในครอบครัว หรือโดนคนในครอบครัวต่อว่า ซึ่งหลังเกิดเหตุเธอและแม่เด็ก ได้พูดคุยกับโรงเรียนเป็นที่เรียบร้อย และตกลงกันได้โดยลูกสาวรับเงินมา 3,000 บาท ยืนยันว่าทางโรงเรียนไม่ได้ให้ไปกดดันลูกสาว ส่วนที่คุณครูลงโทษหลานจนเป็นแผลช้ำ ยอมรับว่ารู้สึกโกรธแต่สามารถให้อภัยได้ เนื่องจากเป็นความผิดครั้งแรก และที่ผ่านมาคุณครูก็ดูแลหลานอย่างดี และมองว่าทางคุณครูเองก็ไม่ได้ตั้งใจ
คุณยายยังบอกว่า แม่เด็กมีสภาวะเป็นโรคซึมเศร้าและอารมณ์แปรปรวน คุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ มักจะกรี๊ดและโวยวายอยู่เป็นประจำ ซึ่งมีหลาน 4 คน อยู่กับลูกสาว 2 คน ส่วนอีก 2 คน ตนก็เป็นคนดูแล ยืนยันว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เธอไม่มีส่วนได้ส่วนเสียและไม่เคยเข้าไปยุ่งเรื่องเงินที่มีการเรียกร้องกัน และก็ไม่เคยเรียกร้องเอาเงินจากทางโรงเรียน มีแต่ลูกสาวที่ขอค่าเสียหายจากทางโรงเรียนเท่านั้น และหลังจากไม่ขอชี้แจ้งอะไรเพิ่มเติม เนื่องจากไม่อยากยุ่งกับเรื่องที่เกิดขึ้น รวมถึงไม่อยากข้องเกี่ยวกับลูกสาวของตัวเองอีกต่อไป
อย่างไรก็ตามหลังจากเจรจาไกล่เกลี่ยกัน สื่อมวลชนพยายาม สอบถามผู้อำนวยการของโรงเรียน ถึงสาเหตุหรือเหตุที่เกิดขึ้น รวมถึงประเด็นที่แม่เด็กระบุว่าถูกกดดัน และถูกข่มขู่ว่าจะแจ้งความ แต่ทางผู้อำนวยการก็ไม่ตอบคำถามประเด็นต่างๆ
เช็กชื่อ! กรรมการบริหารพรรคก้าวไกล โดนตัดสิทธิฯ 10 ปี หลังยุบพรรค
ไฟไหม้ตลาดสี่มุมเมือง “เด็ก 4 ขวบพร้อมน้า” สำลักควันเสียชีวิต บาดเจ็บอีก 1
เปิดโปรแกรม 10 นัดสุดท้าย อาร์เซน่อล ลิเวอร์พูล และ แมนซิตี้ ลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก
- คอนเทนต์พิเศษ
สำหรับคุณ - TOP สังคม
- วิดีโอยอดนิยม
