จากนโยบายของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่พยายามจะดึงกัญชากลับเป็นยาเสพติด คนที่จะได้รับผลกระทบเป็นกลุ่มแรกๆ คือผู้ประกอบการร้านขายกัญชา ซึ่งก่อนหน้านี้กระทรวงสาธารณสุขเปิดให้ขออนุญาตขายได้อย่างถูกต้องมาเป็นเวลาเกือบ 2 ปี จนมีร้านกัญชาผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด
ล่าสุดพีพีทีวี ได้พูดคุยกับผู้ประกอบการเกี่ยวกับร้านกัญชารายหนึ่ง คือนายรัฐพล แสนรักษ์ เจ้าของร้าน Highland Cafe ร้านขายอาหารและเครื่องดื่ม ที่ขยับขยายมาขายกัญชาด้วย หลังมีการปลดล็อกออกจากบัญชียาเสพติดเมื่อปี 2565
โดยนายรัฐพล บอกว่า อยากให้รัฐบาลทบทวนกรณีที่จะนำกัญชากลับไปเข้าบัญชียาเสพติด เพราะจะกระทบกับผู้ประกอบการจำนวนมาก ทั้งร้านที่เปิดขายกัญชา รวมถึงฟาร์มต่างๆ ที่ลงทุนวัสดุอุปกรณ์และเทคโนโลยีต่างๆ ในการปลูก ซึ่งในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เป็นกลุ่มธุรกิจที่มีคนเข้ามาลงทุนจำนวนมาก หากรัฐบาลดึงกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด จะกระทบผู้ประกอบการต้องปิดร้านขายกัญชา กระทบพนักงาน และคนที่ทำงานในธุรกิจนี้
นายรัฐพล มองว่า การจะดึงกัญชากลับเข้าบัญชียาเสพติด ไม่ยุติธรรมกับผู้ประกอบการ เพราะเขาเชื่อว่าที่ผ่านมาส่วนใหญ่พยายามทำตามกฎหมาย ขายภายใต้เงื่อนไขที่รัฐอนุญาต เช่น ของร้าน Highland ผ่านกระบวนการขอใบอนุญาตจำหน่ายหรือแปรรูป “กัญชา หรือสารสกัดจากกัญชา” เพื่อการค้า โดยมีเงื่อนไขต้องรายงานการดำเนินงานให้กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกอย่างน้อยปีละครั้ง และห้ามจำหน่ายกัญชาให้กับคนอายุต่ำกว่า 20 ปี สตรีมีครรภ์ หรือให้นมบุตร และจากนั้นเมื่อมีการปรับเงื่อนไขเรื่อยๆ โดยออกกฎกระทรวงเพิ่ม เช่น เพิ่มให้ร้านเก็บข้อมูลผู้ซื้อกัญชาทุกครั้งและส่งข้อมูลให้กระทรวงสาธารณสุขทุกเดือน ทางร้านก็ปฏิบัติตามเงื่อนไข และเชื่อว่าร้านขายกัญชาส่วนใหญ่ก็ทำแบบเดียวกัน หากจะดึงกลับไปเข้าบัญชียาเสพติดอีกครั้ง ก็เหมือนเซ็ทซีโร่ใหม่ ทั้งที่กระบวนการทั้งหมดเดินหน้ามาแล้ว
ส่วนหากรัฐบาลจะควบคุมการใช้กัญชา ให้เหลือเพียงวัตถุประสงค์เพื่อการแพทย์เท่านั้น นายรัฐพล มองว่า รัฐบาลควรยอมรับว่าปัจจุบันมีคนที่ใช้กัญชาเพื่อการสันทนาการอยู่ไม่น้อย ตั้งแต่ตอนที่กัญชายังไม่ถูกกฎหมาย และคนกลุ่มนี้เป็นคนส่วนใหญ่ที่ใช้กัญชา ซึ่งปัจจุบันที่มีการนำกัญชาออกจากบัญชียาเสพติด ก็มีการควบคุมเงื่อนไขคนที่จะซื้อกัญชาไว้อยู่แล้ว แทนที่จะกลับไปสู่จุดเริ่มต้น คือเอากัญชากลับเข้าบัญชียาเสพติด เขามองว่ารัฐบาลควรเร่งผลักดันร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ ที่ยังค้างอยู่หลายฉบับ ให้มีกฎหมายควบคุมการใช้จะดีกว่า โดยอาจพิจารณาเก็บภาษีการใช้กัญชาเพื่อการสันทนาการ แบบเดียวกับภาษีเหล้า-บุหรี่ เพื่อหารายได้เข้ารัฐร่วมด้วย ส่วนคนที่ขายแบบผิดกฎหมาย เช่น ขายให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี หรือขายโดยไม่มีใบอนุญาต ก็ดำเนินคดีแยกส่วนไป ไม่ให้กระทบกับคนที่ทำถูกกฎหมาย
- คอนเทนต์พิเศษ
สำหรับคุณ - TOP สังคม
- วิดีโอยอดนิยม
