จากกรณีเหตุสลด เมื่อคืนวันที่ 17 ส.ค.67 เจ็ตสกีของ นายชินดนัย แซ่ลิ้ม หรือ “คิวพี” นักแสดงละครซีรีส์ ขี่เจ็ตสกีพุ่งชนเรือหางยาวข้ามฟากขนาดเล็ก กลางแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณคุ้งน้ำพระประแดง จ.สมุทรปราการ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจมสูญหายในน้ำ 2 ราย คือ ผู้โดยสารที่มากับเรือหางยาว และคนขับเรือโดยสาร จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในโลกออนไลน์ ตามที่ได้นำเสนอข่าวมาอย่างต่อเนื่องแล้วนั้น
เมื่อวานนี้ นายชินดนัย แซ่ลิ้ม หรือคิวพี อายุ 21 ปี นักแสดงซีรีย์และผู้ขับเรือเจ็ทสกี พุ่งชนเรือชาวบ้านเสียชีวิตบริเวณคุ้งน้ำพระประแดงกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ได้เดินทางไปยังสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาสมุทรปราการ เพื่อพูดคุยและให้ข้อมูลเกี่ยวกับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นแก่เจ้าพนักงานเจ้าท่า โดยเดินทางมาพร้อมกับพ่อ (เสื้อชมพู) และลุงเจ้าของเรือเจ็ทสกีท
“ธรรมนัส” ประกาศอิสรภาพ! ลั่นรับใช้คนหนึ่ง 6 ปีมากพอแล้ว
สิ้น “ชรินทร์ นันทนาคร” ศิลปินแห่งชาติ นักร้องลูกกรุงเสียงทอง ในวัย 91 ปี
“ลุงป้อม” ประกาศพรรคพลังประชารัฐ ร่วมรัฐบาล"แพทองธาร"
ผู้สื่อข่าวได้พยายามเข้าไปพูดคุยกับ นายคิวพี ว่าอยากที่จะต้องการขอโทษอะไรกับครอบครัวผู้เสียชีวิตหรือไม่ รวมทั้งสภาพจิตใจ หรือ อยากจะกล่าวอะไรถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ปรากฏว่า นายคิวพี ได้แต่ก้มหน้าและไม่ตอบคำถามใดๆ กับผู้สื่อข่าว เช่นเดียวกับพ่อและลุงของนายคิวพี ที่เงียบไม่พูดอะไร
จากนั้นทั้ง 3 คนจะเดินทางขึ้นไปยังห้องสอบสวน ชั้น 2 โดยมี นายฉัตรชัย เวชสาร ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาสมุทรปราการและเจ้าพนักงานร่วมทำการสอบสวน
จากการสังเกตการณ์หน้าห้องสอบสวน พบว่า นายคิวพีและพ่อ อยู่ในสภาพที่เคร่งเครียด มีบางช่วงจังหวะที่พ่อได้กุมมือนายคิวพีเอาไว้ ส่วนลุงของนายคิวพี ทางเจ้าพนักงานได้แยกไปสอบสวนอีกห้องหนึ่ง
นายฉัตรชัย เวชสาร ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาสมุทรปราการ ให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่า วันนี้เรียกทั้งเจ้าของเรือและนายคิวพีมา เพื่อสอบสวนอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นตามอำนาจหน้าที่ของเจ้าพนักงานกรมเจ้าท่า รวมทั้งให้ทั้งสองคนนำเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับใบทะเบียนเรือเจ็ทสกีและประกาศนียบัตรผู้ควบคุมเรือหรือใบนายท้าย ซึ่งเปรียบเสมือนใบขับขี่รถยนต์ มาแสดงต่อเจ้าพนักงานด้วย
ซึ่งตอนนี้ยังไม่สามารถทราบได้แน่ชัดว่า นายคิวพี มีใบนายท้าย หรือไม่ แต่ถ้าหากไม่มี ก็จะมีความผิดตามกฎหมาย โดยความผิดฐานไม่มีใบท้ายเรือตาม พ.ร.บ.การเดินเรือในน่านน้ำไทยพุทธศักราช 2456 นั้น มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับตั้งแต่ 1,000 บาท ถึง 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
โดยก่อนหน้าที่นายคิวพีจะเดินทางมาถึง พ.ต.อ.ประภาส มั่งคั่ง รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า สำหรับข้อสรุปด้านท้องที่ จะให้ สภ.พระประแดง เป็นผู้รับผิดชอบในการสอบสวนคดีเรือเจ็ทสกีชนเรือชาวบ้าน แต่ตอนนี้ยังไม่ได้แจ้งข้อหาใดๆ กับคนขับเจ็ตสกี
เนื่องจากต้องรอข้อเท็จจริงที่เจ้าพนักงานเจ้าท่าสอบปากคำคนขับเจ็ทสกีก่อน จากนั้นค่อยนำมาพิจารณาข้อมูลก่อนที่จะแจ้งข้อหาต่อไป คาดว่าน่าจะแจ้งข้อหาประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า คดีเกิดตั้งแต่ช่วงค่ำวันเสาร์ แต่จนถึงวันนี้ยังไม่มีการแจ้งข้อหาใดๆ ทำให้ญาติผู้เสียชีวิตมีความกังวลว่า จะได้รับความเป็นธรรมหรือไม่ พ.ต.อ.ประภาส กล่าวว่า อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นแตกต่างจากอุบัติเหตุตามท้องถนน ซึ่งต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญด้านการเดินเรือในการวิเคราะห์พยานหลักฐานต่างๆ ถ้ากรมเจ้าท่าสอบสวนข้อเท็จจริงเสร็จสิ้น ก็จะให้ทางกรมเจ้าท่าไปให้ข้อมูลกับทางพนักงานสอบสวน ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ เพื่อนำมาประกอบการแจ้งข้อกล่าวหานายคิวพีต่อไป
โดยช่วงเย็นวานนี้หลังจากที่คิวพีและพ่อเดินทางเข้าให้ปากคำกับทางกรมเจ้าท่าสาขาสมุทรปราการ พร้อมทั้งรับทราบแนวทางที่อาจจะถูกแจ้งข้อหาดำเนินคดีในส่วนของคดีอาญา
โดย คิวพี ขอโทษกับญาติของผู้เสียชีวิตกับสิ่งที่เกิดขึ้นตนเองไม่ได้มีเจตนาหรือความตั้งใจที่จะให้เกิดขึ้นแบบนี้ ตนเองไม่ได้มีเจตนา โดยในวันที่เกิดเหตุตนเองได้เข้ามาในพื้นที่ย่านพระประแดงและไม่ทราบว่ามีการเดินเรือข้ามฟาก ตนเองไม่ค่อยได้ขับเจ็ตสกีมาเล่นในพื้นที่พระประแดงส่วนใหญ่จะขับในบึงปิด ซึ่งในคืนที่เกิดเหตุเจ็ตสกีชนเรือหางยาวข้ามฟากนั้นตนเองยอมรับว่ามองไม่เห็น หลังจากนี้มีความตั้งใจที่จะบวช อุทิศส่วนกุศลให้กับผู้เสียชีวิตและพร้อมที่จะเยียวยากับญาติผู้เสียชีวิตพร้อมรับผิดชอบทุกอย่าง
ส่วนก่อนเกิดเหตุตนเองไม่ได้กินเหล้าหรือเบียร์มาส่วนภาพที่มีการถือรูปเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้น ซึ่งเป็นรูปเก่าที่เก็บไว้ถ่ายเล่นๆ ตนเองมองไม่เห็นแสงไฟบนเรือของคุณลุงประยูร ที่เสียชีวิต ส่วนแสงสว่างกลางแม่น้ำก็ไม่สามารถทำให้ตนเองมองเห็นเรือหางยาวข้ามฟากได้ในระยะไกล แต่เจ็ตสกีที่ตนเองขับวันนั้นมีไฟเป็นลักษณะ Daylight และหลังจากนี้ตนเองคิดว่าจะไม่ขับเจ็ทสกีอีกแล้ว ตั้งใจว่าจะเลิกขับ ซิ่งหลังจากนี้ตนเองจะไปร่วมพิธีงานศพของผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย