จากกรณีเกิดเหตุการณ์ดินสไลด์ลงมาทับบ้านเรือนประชาชน ในพื้นที่ตำบลกะรน อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต จนทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 13 คน ซึ่งทำให้ชาวบ้านมีการตั้งข้อสงสัยว่า เหตุการณ์ดินสไลด์ดังกล่าวส อาจเกิดจากการก่อสร้างบนวัดพระใหญ่ บนเขานาคเกิดหรือไม่
ทั้งนี้ทีมข่าว ได้ขึ้นไปสำรวจวัดพระใหญ่บนเขานาคเกิด ซึ่งมีการสร้างพระพุทธรูปสีขาว ความสูง 45 เมตร และยังมีการก่อสร้างเพิ่มเติมเรื่อย ๆ โดยเฉพาะใต้ฐานพระใหญ่ที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง
โดยยังคงพบว่าคนงานยังทำงานตามปกติ ซึ่งจุดนี้ทำให้ชาวบ้านตั้งข้อสันนิษฐานว่าสาเหตุที่ทำให้ดินสไลด์ลงมาทับบ้านและคนเสียชีวิตถึง 13 คน มาจากการก่อสร้างภายในวัดดังกล่าว ซึ่งนอกจากการก่อสร้างใต้ฐานพระใหญ่ อีกจุดหนึ่งที่อยู่ด้านขวาของพระพุทธรูป มีการขึ้นโครงเหล็กไว้ ลักษณะเป็นโถงเปิดโล่งชั้นเดียว และยังพบพระพุทธรูปถูกจัดให้นอนไว้โดยใช้สแลนส์สีเขียวคลุมไว้ คาดว่าอยู่ระหว่างบูรณะ
ล่าสุด นายสุพร วนิชกุล ประธานมูลนิธิพระพุทธมิ่งมงคลเอกนาคคีรี ได้ออกมาชี้แจงกับทีมข่าวพีพีทีวี โดยเขายอมรับว่า ใต้ฐานพระใหญ่มีการก่อสร้างจริง ก่อนหน้านี้ใช้เป็นพื้นที่ให้พระสงฆ์ในวัดสวดมนต์ ปฏิบัติธรรม แต่ตอนนี้ปิดปรับปรุงเพื่อนำหินอ่อนมาประดับให้ดูดี ส่วนอีกหนึ่งจุดที่เป็นโครงเหล็กเดิมทีเป็นอาคารให้พระสงฆ์สวดมนต์และปฏิบัติธรรมเหมือนกัน แต่ตอนนี้กำลังรื้อออก ส่วนพระพุทธรูปขนาดกลางที่อยู่ด้านข้าง กำลังจะย้ายไปประดิษฐานอีกที่หนึ่ง
ส่วนการก่อสร้างที่ชาวบ้านให้ข้อมูลว่าไม่ได้ขออนุญาตนั้น นายสุพร ยืนยันว่า ขออนุญาตถูกต้อง ก่อนหน้านี้ใบอนุญาตมีอายุ 5 ปี ต่ออายุไปทั้งหมด 4 ครั้ง รวม 20 ปี แต่ตอนนี้เปลี่ยนมาขอใบอนุญาตระยะยาว 30 ปี หน่วยงานหลักในการดำเนินคือสำนักงานพระพุทธศาสนา ขอใช้พื้นที่จากกรมป่าไม้
ส่วนเรื่องข้อกังวลของชาวบ้านนั้น ยอมรับว่าวิศวกรก็เป็นห่วง แต่ตนเองคิดว่า สาเหตุการเกิดดินสไลด์ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับก่อสร้างภายในวัด เพราะโดยโครงสร้างขององค์พระสามารถรองรับการเกิดแผ่นดินไหวได้ถึง 10 ริกเกอร์ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างตรวจสอบสาเหตุโดยละเอียด
อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์ในพื้นที่ หลังเจ้าหน้าที่ได้ปิดปฏิบัติการคเนหาผู้สูญหายไปแล้ว ได้เริ่มเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูพื้นที่ ซึ่งมีการเข้าเคลียร์พื้นที่ นำรถบรรทุกมาขนย้ายซากปรักหักพัง ก้อนหินขนาดใหญ่และต้นไม้ออกจากพื้นที่เพื่อทำความสะอาดขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าฯ ได้ติดตั้งเสาไฟฟ้าที่หักโค่นให้ใหม่ เพื่อให้ชาวบ้านในละแวกนั้นใช้ไฟฟ้าได้
ส่วนผู้ใหญ่บ้านและเจ้าหน้าที่เทศบาลเริ่มลงพื้นที่เพื่อสำรวจความเสียหายตามจุดต่าง ๆ เพื่อเข้าสู่กระบวนการเยียวยาค่าเสียหายให้ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ ตามระเบียบและข้อบังคับของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย