วันที่ 29 ส.ค. 2567 พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีต ผบ.ตร. เดินทางมาที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง หลังอัยการนัดส่งตัวผู้ถูกกล่าวหาพร้อมพวก 8 คน คดี “บอส วรยุทธ อยู่วิทยา” ที่ขับรถชนตำรวจเสียชีวิตเมื่อปี 2555 ภายหลังพบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐคอยช่วยเหลือหลายคนจนเป็นเหตุให้ถูกฟ้องดำเนินคดี โดย พล.ต.อ.สมยศ หนึ่งในผู้ถูกกล่าวหาที่ถูกดำเนินคดี ที่ถูกกล่าวหาว่าช่วยเหลือ นายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส
ผู้สื่อข่าวได้พยายามสอบถามถึงความพร้อมในการต่อสู้คดีในวันนี้ พล.ต.อ.สมยศ ระบุว่า ตนได้มอบหมายให้ทนายความดำเนินการตามขั้นตอนของศาล เมื่อถามว่า มั่นใจในพยานหลักฐานที่นำมาก่อนหน้านี้หรือไม่ พล.ต.อ.สมยศระบุว่า พยายามทำดีที่สุดแล้ว ยอมรับว่า กังวลและไม่สบายใจสำหรับทุกคนที่มีเรื่องต้องต่อสู้ในชั้นศาลเพื่อพิสูจน์ความจริง
เมื่อถามว่า ยืนยันความบริสุทธิ์ใจในการทำคดีนี้หรือไม่ พล.ต.อ.สมยศ บอกว่า เรื่องทั้งหมดกำลังจะเข้าสู่กระบวนการชั้นศาล ตนไม่ขอวิพากษ์วิจารณ์ เนื่องจากเป็นการก้าวก่ายและเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เมื่อถามถึงหลักฐานที่ก่อนหน้านี้ได้นำมาต่อสู้ในชั้นสอบสวน พล.ต.อ.สมยศ ระบุว่า ขอไม่เปิดเผยรายละเอียด
“เสรีพิศุทธ์” เปิดแชตยันพบ “ทักษิณ” ชั้น 14 จ่อแฉ EP.2 รพ.ตำรวจ ลั่น คนเกี่ยวข้องต้องติดคุก
พบผู้สูญหายคนแรกอุโมงค์ถล่มเสียชีวิตแล้ว เร่งค้นหา 2 คนที่เหลือ
เปิดสถิติหวยออกประจำปี 2567 หวยออกวันไหนบ้าง ?
ด้าน นายสุเวช จอมพงค์ อัยการพิเศษ ฝ่ายคดีปราบปรามทุจริต 1 เปิดเผยว่า วันนี้อัยการนำเอกสารสำนวนทั้งหมด 20 แผ่น พร้อม พล.ต.อ.สมยศ และพวก รวม 8 คน มาส่งฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง หลังอัยการนัดส่งฟ้องในคดีที่พนักงานอัยการยื่นฟ้อง ตามมติของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่ส่งมา ในกรณีเปลี่ยนแปลงสำนวนและลดความเร็วรถของ นายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือบอส ที่ขับรถชน ดาบตำรวจวิเชียร กลั่นประเสริฐ เสียชีวิต เมื่อวันที่ 3 ก.ย.2555
สำหรับผู้ต้องหาทั้ง 8 คน ถูกดำเนินคดีในข้อหาที่แตกต่างกัน โดยแบ่งเป็นประเด็น ส่วนแรกคือการดำเนินคดีกับผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องกับการ เปลี่ยนแปลงความเร็วรถ อีกส่วนคือการดำเนินคดีกับอดีตรองอัยการสูงสุดในเรื่องการสั่งคดี และผู้ต้องหาที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการเป็นพยานของคดีนี้ ซึ่งคดีดังกล่าว ป.ป.ช. มีมติส่งเรื่องให้อัยการสูงสุด หากอัยการสูงสุดเห็นด้วยและมีคำสั่งฟ้องอัยการสูงสุดก็จะเป็นโจทก์ฟ้องเอง
สำหรับกระบวนการในวันนี้อัยการจะตรวจสำนวนมั้งหมดว่าจำเลยมาครบทั้งหมดหรือไม่ ถ้ามาครบทุกคนอัยการก็จะยื่นฟ้องทันที แต่หากมาไม่ครบก็ต้องแยกสำนวนในการฟ้องภายหลัง
สำหรับคดีนี้เป็นคดีแรกที่ตนเข้ามารับผิดชอบ แต่จะเป็นการฟ้อง อดีต ผบ.ตร.คนแรกในรอบหลายสิบปีหรือไม่ตนไม่ทราบ และหากกระบวนการในชั้นศาลสิ้นสุดและมีผลเป็นลบต่อจำเลยเกรงว่าจำเลยจะหลบหนี การติดตามตัวก็จะเป็นหน้าที่ของตำรวจ ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับอัยการ ส่วนการประกันตัวทราบว่ามีถิ่นที่อยู่และเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่และไม่มีพฤติกรรมหลบหนี