จากกรณีมีเหตุการณ์วินจักรยานยนต์รับจ้างไล่นักท่องเที่ยวที่เรียกรถแท็กซี่ผ่านแอปพลิเคชั่นลงจากรถ โดยปรากฎคลิปกล้องวงจรปิดภายในรถแท็กซี่ EV บันทึกภาพ ชายสวมเสื้อกั๊กสีฟ้าขับวินจักรยานยนต์รับจ้างไม่ยอมให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติปิดประตูรถแท็กซี่ ก่อนไล่ลงจากรถ
ทั้งที่คนขับแท็กซี่พยายามอธิบายว่านักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเรียกใช้บริการผ่านแอปพลิเคชัน แต่วินจักรยานยนต์รับจ้าง ยังยืนยันให้นักท่องเที่ยวลงจากรถแท็กซี่ ซึ่งเกิดขึ้นบริเวณ ลานจอดโลมา ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 31 ต.ค.ที่ผ่านมา
ด้าน นางสาวหญิง (นามสมมติ) คนขับรถแท็กซี่ เล่าว่า ตนเองเป็นรถป้ายเหลืองถูกต้องทุกอย่าง แต่ระหว่างจะกลับบ้าน แล้วมีลูกค้าเรียกผ่านแอปฯ แต่กลับถูกวินจักรยานยนต์รับจ้างเข้ามาหาเรื่องลูกค้าและไล่ลูกค้าลงจากรถและหาว่าขโมยแขก ทั้งที่ลูกค้าเรียกผ่านแอปฯ และที่จอดรถเป็นที่สาธารณะ ไม่มีคิว จึงอยากให้ตำรวจช่วยดูพฤติกรรมวินมอไซค์รับจ้างคนนี้ เพราะมีอาการเมาขณะมาไล่ลูกค้าด้วย
ต่อมาเมื่อวานนี้ (2 พ.ย.) ตำรวจจากสถานีตำรวจภูธรป่าตอง ได้ตามไปจับกุม นายจำเป็น อายุ 53 ปี วินจักรยานยนต์รับจ้างที่อยู่ในคลิป ได้ที่ถนนทวีวงศ์ ต.ป่าตอง อ.กะทู้ ในลักษณะขี่รถจักรยานยนต์ส่ายไปส่ายมาเหมือนคนมึนเมา เมื่อตรวจค้นใต้เบาะรถจักรยานยนต์ พบสุรา 1 แบน ที่ถูกดื่มไปแล้วกว่าครึ่ง ตำรวจจึงนำตัวไปตรวจปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายพบว่า มีปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายเกินกว่ากฎหมายกำหนดโดยวัดได้ 75 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
จึงมีการแจ้งข้อหา ขับขี่รถในขณะเมาสุราหรือของเมาอย่างอื่น, ใช้รถไม่ตรงตามประเภทที่จดทะเบียนไว้, ไม่สวมหมวกนิรภัย, ไม่พกพาสำเนาคู่มือจดทะเบียนรถ, ไม่มีใบอนุญาตขับขี่สาธารณะ และ ไม่ชำระภาษีประจำปีภายในกำหนด นอกจากนี้ ตำรวจยังเชิญ คนขับรถแท็กซี่ เข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนเพื่อแจ้งข้อหาข่มขู่ให้ผู้อื่นตกใจกลัว เพิ่มกับนายจำเป็นต่อไป