DSI หอบสำนวน 348,209 แผ่น เสนออัยการสั่งฟ้องครบ 5 ข้อหา ดิไอคอน กรุ๊ป

โดย PPTV Online

เผยแพร่

DSI ส่งสำนวน ดิไอคอน กรุ๊ป เสนออัยการสั่งฟ้องครบ 19 ราย 5 ข้อหา หลังรับสำนวนจากตำรวจ สอบสวนเสร็จตามกำหนดระยะเวลา

วันนี้ (วันจันทร์ที่ 23 ธันวาคม 2567) ณ ห้องรับรอง ชั้น 2 อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ถนนแจ้งวัฒนะ  พันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ร้อยตำรวจเอก วิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พันตำรวจโท อนุรักษ์ โรจน์นิรันดร์กิจ ผู้อำนวยการกองคดีคุ้มครองผู้บริโภค พร้อมด้วย พันตำรวจตรี วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ โฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ร่วมกันแถลงข่าว ตามที่กรมสอบสวนคดีพิเศษได้รับสำนวนการสอบสวน กรณีกล่าวหา บริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด กับพวก  

คอนเทนต์แนะนำ
บางจากลดราคาเฉพาะน้ำมันกลุ่มไฮพรีเมียม ลิตรละ 5 บาท 6 วันรับปีใหม่
มอบตัวแล้ว 2 ใน 5 มือยิงถล่มบ่อนไก่นครปฐม โดนข้อหาพยายามฆ่า


 

ดิไอคอนกรุ๊ป กรมสอบสวนคดีพิเศษ
DSI หอบสำนวน 348,209 แผ่น ดิไอคอน กรุ๊ป เสนออัยการสั่งฟ้องครบ 5 ข้อหา

กระทำผิดฐานฉ้อโกงประชาชนและความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ฯ จากกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) มาดำเนินการสอบสวนเป็นคดีพิเศษ 

ที่ 119/2567 ตั้งแต่วันที่ 30 ตุลาคม 2567 กรมสอบสวนคดีพิเศษได้ทุ่มเทสรรพกำลังในการสืบสวนสอบสวน โดยได้บูรณาการการทำงานร่วมกับ 7 หน่วยงาน ซึ่งในคดีนี้มีพยานเอกสารถึง 348,209 แผ่น พยานบุคคล 8,071 ปาก มีผู้เสียหายจำนวน 7,875 ราย มูลค่าความเสียหาย จำนวน 1,644 ล้านบาท ปรากฏตัวผู้ต้องหา จำนวน 19 ราย ซึ่งเป็นนิติบุคคลจำนวน 1 ราย คือ บริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด และผู้ต้องหาซึ่งเป็นบุคคลธรรมดา จำนวน 18 ราย ได้แก่ นายนายวรัตน์พล หรือบอสพอล กับพวก ได้ดำเนินการอายัดทรัพย์สินในคดีฟอกเงิน จำนวน 747,640,000 ล้านบาท อาทิเช่น อาคารและที่ดิน 

หลังจากเมื่อวันศุกร์ที่ 20 ธันวาคมที่ผ่านมา คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษในคดีดังกล่าวได้มีการประชุมมีมติเห็นควรเสนอให้พนักงานอัยการสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 19 ราย ในความผิดฐาน  (1) “ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน (แชร์ลูกโซ่)” อันเป็นความผิดตามพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (2) “ร่วมกันประกอบธุรกิจขายตรงประกอบธุรกิจตลาดแบบตรงในลักษณะที่เป็นการชักชวนให้บุคคลเข้าร่วมเป็นเครือข่ายในการประกอบธุรกิจโดยตกลงว่าจะให้ผลประโยชน์ตอบแทนจากการหาผู้เข้าร่วมเครือข่ายดังกล่าวซึ่งคำนวณจากจำนวนผู้เข้าร่วมเครือข่าย

ที่เพิ่มขึ้น” และ (3) “ร่วมกันประกอบธุรกิจขายตรงโดยไม่ได้รับอนุญาต” อันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ.2545 (4) "ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน”และ (5) “ร่วมกันโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน”อันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550

อส.ปืนโหด! กระหน่ำยิงกลางร้านข้าวต้ม เสียชีวิต 2 เจ็บ 3

ฉายารัฐบาล ปี 2567 "รัฐบาลพ่อเลี้ยง" พร้อมฉายานายกรัฐมนตรี “แพทองโพย”

20 ที่เที่ยวปีใหม่ ใกล้กรุงเทพฯ ไปเช้าเย็นกลับ เดินทางง่าย

ดิไอคอนกรุ๊ป กรมสอบสวนคดีพิเศษ
DSI หอบสำนวน 348,209 แผ่น ดิไอคอน กรุ๊ป เสนออัยการสั่งฟ้องครบ 5 ข้อหา

โดยในวันนี้อธิบดีกรมสอบสวนคีดพิเศษได้ลงนามในหนังสือส่งสำนวนการสอบสวนคดีดิไอคอนพร้อมพยานหลักฐานทั้งหมด โดยมอบหมายให้ ร้อยตำรวจเอก วิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดีกรมสอบสวน คดีพิเศษ และพันตำรวจตรี วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยารกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ และคณะพนักงานสอบสวน เป็นผู้นำสำนวนการสอบสวนฯ จำนวน 161 ลัง รวม จำนวน 348,209 แผ่นไปส่งมอบที่สำนักงานคดีพิเศษเพื่อให้พนักงานอัยการมีความเห็นทางคดีต่อไปรวมระยะเวลาในการสอบสวนคดีนี้กรมสอบสวนคดีพิเศษดำเนินการแล้วเสร็จในระยะเวลา เพียง 54 วัน

พันตำรวจตรี ยุทธนาฯ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษยังได้กล่าว “ขอขอบคุณ สำนักงานอัยการสูงสุด ที่ได้มอบหมายให้พนักงานอัยการมาเป็นที่ปรึกษาในคดี สำนักงานตำรวจแห่งชาติซึ่งเป็นหน่วยงานแรกที่รับเรื่องและประสานความร่วมมือด้วยดีตลอดมา กรมพัฒนาธุรกิจการค้า สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง สถาบัน นิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งสนับสนุนในการเก็บและตรวจพิสูจน์พยานหลักฐาน และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ในการดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์เพื่อนำไปเฉลี่ยคืนให้กับผู้เสียหาย ตลอดถึงขอขอบคุณ คณะที่ปรึกษาคดีพิเศษทุกท่าน และขอขอบคุณเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษทุกท่านที่ได้ร่วมแรงร่วมใจ

ในการทำงานจนสามารถทำให้คดีนี้ส่งพนักงานอัยการเพื่อให้มีความเห็นทางคดีตามกรอบระยะเวลาของกฎหมายซึ่งเป็นการอำนวยความยุติธรรมให้เกิดแก่ผู้เสียหายอย่างมีประสิทธิภาพ และในส่วนของ การดำเนินการในคดีฟอกเงินของกรณีบริษัท ดิไอคอนฯ ยังคงมีการดำเนินการต่อไป” 

ทั้งนี้ การบูรณาการความร่วมมือกับทุกภาคส่วน (Strong Collaboration) เป็นนโยบายหลักประการสำคัญของ พันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงยุติธรรมเพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นในการป้องกันปราบปรามสืบสวนสอบสวนคดีในความรับผิดชอบเพื่อให้การบริหารองค์การมีความยั่งยืนตามหลักธรรมาภิบาลต่อไป 
 

Bottom-VNL2025 Bottom-VNL2025

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

PPTVHD36

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ