นาทีชีวิต! กู้ภัยช่วยหนุ่มหนัก 314 โล นำส่ง รพ.ทุลักทุเลจนถึงมือหมอ

เผยแพร่ 7 ก.พ. 2568 ,15:58น.

กู้ภัยเล่านาทีชีวิต! ช่วยเหลือหนุ่มวัย 30 หนัก 314 กิโล ก่อนนำขึ้นรถสไลด์ส่งโรงพยาบาลทุลักทุเล จนถึงมือหมออย่างปลอดภัย

จากกรณีเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ช่วยผู้ป่วย ชาย 1 ราย อายุประมาณ 30 ปี น้ำหนัก 314 กิโลกรัม นำส่งโรงพยาบาลอย่างทุลักทุเลนั้น

ล่าสุดนายพงศ์สิทธิ์ รักกะเปา อายุ 29 อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูจุดบางนา 25 เจ้าหน้าที่กู้ภัยเล่าเหตุการณ์ให้ผู้สื่อข่าวความว่า ตนได้รับแจ้งเหตุจากศูนย์วิทยุมูลนิธิร่วมกตัญญูชื่อรถเข้าที่เกิดเหตุภายในซอยวชิรธรรมสาธิต 17 พบชายร่างใหญ่หนัก 314 กิโลกรัม มีอาการ เหนื่อย,อ่อนเพลีย,มีไข้

นาทีชีวิต กู้ภัยช่วยหนุ่มหนัก 314 โล นำส่ง รพ.

หลังจากนั้นจึงประสานรถเอราวัณเพื่อที่จะสนับสนุนที่เกิดเหตุเนื่องจากคนไข้ตัวใหญ่มากเคลื่อนย้ายลำบากจากการช่วยเหลือแล้วก็ไม่สามารถนำขึ้นรถได้จึงประสานรถกระบะเข้า สนับสนุนอีกครั้ง แต่ก็ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้เนื่องจากผู้ป่วยขยับนิดขยับหน่อยก็มีอาการเหนื่อยหายใจช้าลง จึงประสานพ่อของผู้ป่วย ว่ามีรถสไลด์หรือไม่ ซึ่งก็ได้รับแจ้งว่ามีคนรู้จักขับรถสไลด์อยู่ จึงเรียกเข้ามาจากการช่วยเหลือ โดยหลังจากที่รถสไลด์มาถึงก็ต้องใช้เวลาต่ออีกประมาณ 1-2 ชั่วโมง จึงสามารถนำผู้ป่วยขึ้นรถสไลด์อย่างทุลักทุเล เพราะต้องค่อยๆขยับทีละนิดค่อยๆเดินทีละหน่อยเกรงว่าผู้ป่วยจะเหนื่อยและหายใจลำบาก และก็ต้องรีบนำส่งโรงพยาบาล

ซึ่งหลังจากถึงโรงพยาบาลได้พบแพทย์คุณหมอก็ตกใจเนื่องด้วยไม่เคยเห็นผู้ป่วยน้ำหนักเยอะขนาดนี้จึงได้รับการรักษา เบื้องต้น ได้รับแจ้งจาก โรงพยาบาลว่าผู้ป่วยมีอาการดีขึ้นแล้ว

ขณะที่นาย ประยงค์ แสงทอง อายุ 72 พ่อของผู้ป่วย เล่าว่า เดิมทีลูกชายมีน้ำหนักขึ้นมาเรื่อยๆ จนอายุประมาณ 30 ปี ซึ่งไม่เคยเข้ารับการรักษาพยาบาลหรือตรวจรักษาโรค เป็นอย่างเดียวคือความดัน ปัจจุบันลูกชายทำงานรับจ้างช่างเลี่ยมกรอบพระภายในบ้าน อาจจะมีบางส่วนที่ไม่ได้ขยับเขยื้อนอะไรมากเนื่องจากทำงานอยู่ที่บ้านจึงทำให้น้ำหนักขึ้น ซึ่งวันเกิดเหตุลูกชายมีอาการเหนื่อย หอบหายใจไม่สะดวก มีไข้ ก็เลยเรียกรถพยาบาลมารับ แต่รถพยาบาลไม่สามารถนำขึ้นในรถตู้ได้เพราะว่าตัวมีขนาดใหญ่ จากนั้นก็เรียกรถกระบะให้มาสนับสนุนก็ยังคงขึ้นรถไม่ได้เช่นเดียวกัน ตนเลยติดต่อไปยังคนรู้จักให้นำรถสไลด์มารับลูกชายไปส่งโรงพยาบาล ซึ่งระหว่างทางการเคลื่อนย้ายก็ทุลักทุเล โดยเจ้าหน้าที่กู้ภัยก็ช่วยเหลืออย่างเต็มที่ พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อเอาไปโรงพยาบาล

อย่างไรก็ตามปัจจุบันอาการลูกชายดีขึ้นเป็นลำดับ หลังจากนี้ก็อาจจะให้ออกกำลังกาย ลดน้ำหนัก และควบคุมการทานอาหาร อย่างไรแล้วต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่กู้ชีพกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญูทุกท่านด้วยที่ให้การช่วยเหลือพาลูกชายไปส่งโรงพยาบาล