ตร.-ผู้ประกอบการ สยบดรามา ชาวยิวป่วนปาย เนรเทศหมดแล้ว ยันไม่มีดินแดนพันธสัญญา

โดย PPTV Online

เผยแพร่

ตำรวจ-ผู้ประกอบการ เผยชาวอิสราเอล สร้างความเดือดร้อนในปาย เนรเทศไปหมดแล้ว ส่วนโบสถ์ยิว ไม่ได้เกิดปัญหาอย่างที่เป็นข่าว ยืนยันไม่มีดินแดนพันธสัญญาใดๆทั้งสิ้น วอนหยุดสร้างกระแสข่าว

วันที่ 18 ก.พ. 2568 พ.ต.ท.สุวิทย์ บุญยะเพ็ญ สารวัตรตำรวจท่องเที่ยว จ.แม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า กรณีปรากฏข่าวทางโซเชียล เรื่องชาวอิสราเอล เดินทางเข้ามาในพื้นที่อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน จำนวนมาก เพื่อตั้งถิ่นฐานและลงหลักปักฐานเป็นดินแดนพันธะสัญญา รวมถึงตั้ง Chabad รวมกลุ่ม สร้างความเดือดร้อนกับประชาชน และแย่งอาชีพคนไทย ฯลฯ นั้น ขอนำเรียนข้อมูล ข้อเท็จจริงเพื่อทราบดังนี้

คอนเทนต์แนะนำ
"อนุทิน” ขออย่ากังวล เป็นไปไม่ได้ ชาวยิวปักป้ายยึดปาย แค่คิดก็ผิดแล้ว
นายกฯ สยบดรามา ปัดชาวยิวยึดปาย “อนุทิน” ลงพื้นที่สัปดาห์หน้า

ชาวยิว สตริงเกอร์ แม่ฮ่องสอน
อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน

1.จำนวนประชากร ของอ.ปาย มีประมาณ 38,000 คน

2.จำนวนนักท่องเที่ยว จำนวน 30,000 คน ตามที่ปรากฏในสื่อเป็นยอดนักท่องเที่ยวอิสราเอล ที่แจ้งเข้าพัก ตาม ม. 38 ( ตม. ) เป็นยอดนักท่องเที่ยวสะสม ทั้งปี ( ซึ่งยอดนักท่องเที่ยวอิสราเอล เฉลี่ยที่เข้าพักในแต่ละวัน มีประมาณ 83-84 คน

3.นักท่องเที่ยว ที่มาเที่ยวอ.ปาย มากที่สุด คือ อังกฤษ อิสราเอล อเมริกา เยอรมัน ตามลำดับ

4.ชาบัด หรือ โบสถ์ยิว ในอ.ปาย ใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธี ในวันศุกร์ และเสาร์ เนื้อที่ประมาณ 2 งาน และใช้เป็นที่รับประทานอาหาร ความจุประมาณ 200 คน

5. ชาบัด หรือ โบสถ์ยิว มีจำนวน 7 แห่ง เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต สมุย พัทยา พะงัน และที่ใหญ่สุด คือ กทม.

6.การเข้าของนักท่องเที่ยวทุกสัญชาติ เข้ามาโดยถูกต้องตามกฎหมาย

7.การตั้งถิ่นฐานในความเป็นดินแดนพันธสัญญา ยังไม่มีการดำเนินการใดใดทั้งสิ้น รวมถึงการแย่งอาชีพคนไทย ที่ทุกฝ่ายได้เฝ้าระวังตรวจตรา บังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด ซึ่งทุกหน่วยงานได้ดำเนินการประชาสัมพันธ์ให้ทุกช่องทางได้รับรู้ รับทราบ ทุกระยะ

สำหรับมาตรการระยะยาวที่ได้เคยประชุมร่วมกับส่วนราชการต่างๆ ก็จะยังคงดำเนินมาตรการบังคับอย่างต่อเนื่อง ทั้งเรื่อง รถเช่า ล่องห่วงยาง สูบกัญชา เป็นต้น

ด้าน พล.ต.ต.ทรงกริช ออนตะไคร้ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยทางว่า กรณีปัญหานักท่องเที่ยวอิสราเอลในอ.ปาย โดยเฉพาะเรื่องโบสถ์ยิว ไม่ได้เกิดปัญหาอย่างที่เป็นข่าวในกระแสสื่อโซเชียลแต่อย่างใด ไม่ได้จัดงานปาร์ตี้ หรือ เป็นแหล่งมั่วสุม แต่เป็นสถานที่ประกอบศาสนกิจของศาสนายิว ที่มีการสวดมนต์ทานอาหารร่วมกัน ในทุกวันศุกร์และต่อเนื่องไปถึงวันเสาร์ของทุกสัปดาห์ เท่านั้น ส่วนเรื่องชาวยิวที่ก่อเหตุและทำผิดกฎหมายไทย ทางเจ้าหน้าที่ก็ทำการจับกุมและถึงขั้นเนรเทศออกไปจากประเทศไทยมาแล้ว

อย่างไรก็ตาม ตนได้กำชับให้ตำรวจ สภ.ปาย ปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มงวดตามกฎหมาย กับนักท่องเที่ยวทุกสัญชาติที่เข้ามาท่องเที่ยวและพำนักในปายอย่างต่อเนื่องและให้มีการประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจระหว่างประชาชนคนไทยในปาย และ นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในปาย ให้รับทราบถึงกฎระเบียบ ธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรมของชาวเมืองปาย เพื่อให้อยู่ร่วมกันได้อย่างสันติสุข

ก่อนหน้านั้น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มีหนังสือด่วนที่สุด ลงวันที่ 17 ก.พ.2568 โดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. เรื่อง ตรวจสอบพฤติกรรมกลุ่มคนต่างด้าวในพื้นที่รับผิดชอบ โดยระบุด้วยปรากฎข้อมูลข่าวสารว่า มีกลุ่มคนต่างด้าวในหลายพื้นที่ มีพฤติกรรมที่อาจขัดต่อความสงบต่อสังคม หรือศีลธรรมอันดีของประชาชน ฝ่าฝืนกฎหมายบ้านเมือง ก่อความวุ่นวายเดือดร้อนรำคาญในที่สาธารณะ ตลอดจนการรวมกลุ่มแสดงออก หรือจัดกิจกรรมในลักษณะที่กระทบภาพลักษณ์และความมั่นคงของประเทศ จึงกำชับให้หน่วยดำเนินการโดยเฉพาะ ตำรวจภูธร ภ.5 (ภ.จว.แม่ฮ่องสอน)

สำหรับกรณีที่ปรากฏข้อมูลข่าวสารกลุ่มคนต่างด้าวในพื้นที่ อ.ปาย จว.แม่ฮ่องสอน ให้ดำเนินการตรวจสอบและรายงานผลการปฏิบัติให้ ตร. ทราบ (ผ่าน ศปชก.ตร.) ภายใน 7 วัน (ห้ามผัดส่ง) โดยได้ มอบหมายให้ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. (มค 1) เป็นผู้ควบคุมการปฏิบัติ โดยเปิดให้ สตม, ตชด, บช.ทท. และหน่วยงานในในพื้นที่ ดำเนินการเชิงรุกให้ปรากฏผลอย่างเป็นรูปธรรมโดยด่วน ให้ ศปชก.ตร. อำนวยการ ควบคุม ดูแลการปฏิบัติในภาพรวม และให้เป็นศูนย์รวบรวมข้อมูล ข่าวสารเกี่ยวกับคนต่างด้าวตามนัยหนังสือนี้ต่อไปเพื่อทราบและดำเนินการ

ขณะที่ นายอาวุธ เจษฎาไกรสร ผู้ประกอบการในอำเภอปายเจ้าของโรงแรมเดอะพีคอก เดอปาย ระบุว่า อ.ปายเป็นเมืองที่สงบ วัฒนธรรมดี ถามว่าคนที่ประท้วงไม่มองให้รอบด้าน ไม่ใช่ตนเข้าข้างชาวอิสราเอล คนไม่ดีเราใช้กฎหมายเนรเทศออก แย่งอาชีพเราก็ว่ากันไป แต่ไม่ใช่มาโวยวายแอนตี้ ยิ่งข่าวออกมาเท่าไหร่ อ.ปาย ยิ่งเสียหาย กระทบการท่องเที่ยวอย่างรุนแรง

“ผมพูดในฐานะผู้ประกอบการ ในฐานะคนไทยคนหนึ่ง และพูดในฐานะเคยอยู่ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ผมมาทำธุรกิจที่อ.ปาย เพราะว่ามีเหตุการณ์เรื่องระเบิดกระตุ้นยังไงไม่ได้ผล ยกเว้นทำให้คนมีการศึกษา มีความคิด อ.ปายบริสุทธิ์ดีอยู่แล้ว แค่คนกลุ่มเล็กไม่ใช่ส่วนมาก ทำงานแบบนี้ผมเชื่อว่าหากยังไม่หยุดกระแสข่าวตัวนี้ อนาคต อ.ปาย จบ ชาวต่างชาติที่เข้ามาเที่ยวในอ.ปายเป็นล้านคน คุณจะให้เสีย ไม่ใช่อิสราเอลนะ เสียทั้งหมด”

Bottom-PL-HLW Bottom-PL-HLW

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

PPTVHD36

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ