คนทำงานแห้ว! แจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท เฟส 3 กลุ่มวัยรุ่น รัฐแก้ผิดจุด

เผยแพร่ 11 มี.ค. 2568 ,12:39น.

จากกรณีที่รัฐบาลมีแนวคิดแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท เฟสที่ 3 ให้กลุ่มเยาวชน อายุ 16-20 ปี เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโลกออนไลน์ตามแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ บางส่วนมองว่าเงินควรนำไปใช้สนับสนุนการศึกษา การฝึกอาชีพ หรือช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย แทนที่จะแจกให้วัยรุ่นโดยตรง

วันนี้ 11 มี.ค. 2568 ผู้สื่อข่าว PPTV ลงพื้นที่ไปเขตดินแดง กรุงเทพมหานคร สำรวจความคิดเห็นกลุ่มคนที่ยังไม่ได้รับสิทธิเงินดิจิทัล 10,000 บาทว่ามองกรณีดังกล่าวอย่างไรบ้าง

น.ส.มาริษา วิทยาโรจน์ อายุ 23 เป็นพนักงานบริษัทเอกชน เล่าว่า ตนเองก็เคยโหลดแอปฯทางรัฐมาลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ แต่ตอนนี้ลบไปแล้วเพราะดูจากการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาทแต่เฟสที่ผ่านมา ก็คิดว่าตนเองไม่น่าจะได้แล้วเลยลบแอพพลิเคชันไปแล้ว

ส่วนข้อเป็นห่วงตามโซเชียลที่บอกว่ากลุ่มอายุ 16 -20 ปี อาจจะมีการนำเงินไปใช้ในทางที่ผิดวัตถุประสงค์ของโครงการตนเองมองเรื่องนี้ว่า เด็กทุกวันนี้มีความฉลาด ก็ไม่น่ามีข้อเป็นห่วงอะไรแต่ก็ยังเป็นห่วงในกลุ่มเยาวชนต่างจังหวัดที่อาจจะเป็นตามข้อห่วงได้

น.ส.มาริษา กล่าวย้ำว่า เด็กทุกวันนี้เป็นเด็กฉลาด การแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาทให้ กลุ่มเยาวชนอายุ 16-20 ปี ถ้าหากรัฐบาลหวังผลทางการเมืองกับเด็กกลุ่มนี้ก็คงไม่ได้ผล เพราะเขาสามารถคิดแยกแยะได้ และมองว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการแจกเงินไม่ได้ช่วยให้เศรษฐกิจในประเทศดีขึ้นเพราะดูจากการแจกแต่ละเฟสที่ผ่านมา ในวันนี้เศรษฐกิจไทยก็ยังแย่อยู่

ด้านนายประมวล ศรีกุลา อายุ 40 ปี อาชีพขับวินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง เผยว่า ตนเองก็ได้ลงทะเบียนแอพทางรัฐไว้เช่นเดียวกัน แต่ว่าตอนนี้ยังค้างอยู่ในขั้นตอนที่ 3 อยู่ก็ยังรอว่าวันไหนตนเองจะเข้าข่ายคุณสมบัติที่จะได้รับเงินวันไหน แต่ว่าก็ไม่ได้คาดหวังว่าจะได้ในเร็ววัน

ส่วนข้อเป็นห่วงของเยาวชนอายุ 16-20 ปี จะนำเงินดิจิทัล10,000 บาทไปใช้ในทางที่ผิดวัตถุประสงค์โครงการนั้น นายประมวล มองว่า ถ้าเป็นลูกหลานของตนเองก็จะมีการให้คำแนะนำ หรือ ควบคุมการใช้จ่ายร่วมด้วย เพราะเงินที่ได้รับนั้นเป็นเงินที่ถือว่าจำนวนที่สูง

นอกจากนี้ ทีมข่าว PPTV ได้สัมภาษณ์ นายศรัณณภัทร แสงคำ อายุ 17 ปี โดยเขาเปิดเผยว่า การแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท น่าจะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศได้ เพราะการแจกเงินทำให้กระตุ้น การใช้จ่ายซึ่งอาจจะส่งผลให้ GDP เพิ่มขึ้น แต่ถ้าหากไม่กระตุ้นผ่านการแจกเงิน ตนเองมองว่า อาจจะไปแก้ไขปัญหาเรื่องค่าครองชีพของแรงงาน

ผู้สื่อข่าวถามว่าถ้าได้รับเงินแล้วจะนำไปใช้จ่ายอะไร นายศรัณณภัทร ยิ้มแล้วก็ตอบว่า จะนำไปใช้จ่ายช้อปปิ้ง แล้วก็อาจจะเก็บไว้ออมเงินหรือลงทุน เพราะตนเองคาดไว้ว่าอยากจะนำไปลงทุนขายของเพื่อช่วยเหลือและแบ่งเบาภาระของครอบครัว

ผู้สื่อข่าว ถามเพิ่มเติมว่า คิดว่าการแจกเงินให้กลุ่มอายุ 16 ถึง 20 ปีในครั้งนี้มีนัยยะทางการเมืองมาเกี่ยวข้องหรือไม่ นายศรัณณภัทร มองว่าเรื่องนี้มองได้หลายมุมมอง ในประเด็นแรกรัฐบาลอาจจะอยากแจกเงินให้เด็ก เพื่อให้มีโอกาสมีเงินเป็นของตัวเอง ได้รู้จักการออม รู้จักการลงทุน หรือว่าใช้เงินตรงนี้ ไปแบ่งเบาภาระครอบครัว แต่ในอีกประเด็นตน มองว่า น่าจะมีนัยยะทางการเมืองมาเกี่ยวข้องด้วยก็ได้