ความคืบหน้ากรณี พ.ต.อ.หญิง แพทย์ รพ.ตำรวจ ลักลอบซื้อขายยาควบคุมใช้ผิดวัตถุประสงค์ในลักษณะ “ยาเสียสาว” วันนี้ทางด้าน สธ.จับมือ ปส. และ อย. แถลงขยายผลขบวนการ พบ พ.ต.อ.หญิง แพทย์ รพ.ตำรวจ ร่วมขบวนการ ใช้ชื่อผู้ตายเบิกยาโยงคลินิก เงินหมุนเวียนกว่า 450 ล้านบาท ยึดของกลางเป็นยากว่า 170,000 เม็ด จ่อขยายผลเครือข่ายทั้งวงการแพทย์ และแก๊งค้ายาใน กทม. เบื้องต้นมีฐานความผิดร่วมกันจำหน่ายยาผดดยไม่ได้รับอนุญาต และสมคบกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด
ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด นายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข, เภสัชกร ฉัตรชัย มานิชย์ศุภภรณ์ ผู้อำนวยการกองควบคุมวัตถุเสพติด สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา, ทันตแพทย์อาคม ประดิษฐสุวรรณ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ, นายแพทย์ วิทิต สฤษฎีชัยกุล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา, พลตำรวจโทสำราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, พลตำรวจโทสันติ ชัยนอริมัย ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด , พลตำรวจตรีออมสิน ตรารุ่งเรือง รองผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด, พลตำรวจตรีนพสิทธิ์ มิตรภักดี ผู้บังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 1 ร่วมแถลงผลการขยายผลคดีขบวนการลักลอบซื้อ ขายยาควบคุมที่นำไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ในลักษณะ “ยาเสียสาว” ซึ่งเป็นวัตถุออกฤทธิ์ในประเภทที่ 2 และ 4
พลตำรวจโทสำราญ เปิดเผยว่า สำนักงาน ปส. ได้รับแจ้งเบาะแสจาก อย. ว่ามีบุคคลบางกลุ่ม โดยเฉพาะบุคลากรทางการแพทย์ ลักลอบสั่งซื้อยาควบคุมที่มีฤทธิ์ต่อระบบประสาท เช่น ยานอนหลับ และยาคลายกังวล ซึ่งจัดอยู่ในวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 และ 4 ผ่านคลินิกต่าง ๆ โดยอาศัยใบอนุญาตที่ถูกต้องจาก อย.แต่กลับนำไปเก็บซุกซ่อนไว้ในแฟลตหรือบ้านพัก เพื่อจำหน่ายนอกระบบ
ขบวนการนี้แบ่งหน้าที่ชัดเจน ทั้งกลุ่มสั่งซื้อยา, กลุ่มเก็บรักษา, และกลุ่มกระจายยาไปยังลูกค้า ซึ่งส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่นที่นำไปใช้เพื่อการมึนเมาหรือกระทำผิด โดยพบเงินหมุนเวียนในเครือข่ายกว่า 100 ล้านบาท
จากการติดตามและสืบสวน เจ้าหน้าที่ ปส. สามารถรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องรวม 5 ราย ในข้อหาร่วมกันจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 ได้แก่ Flunitrazepam โดยไม่ได้รับอนุญาต รวมถึงข้อหาสมคบกันเพื่อกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด
โดยผลการจับกุม มีผู้ต้องหาตามหมายจับ 5 ราย ได้แก่ 1. พ.ต.อ.พญ.อัญชุลี ทำหน้าที่ สั่งซื้อยาวัตถุออกฤทธิ์ 2.นายดุริยลักษณ์ ทำหน้าที่ เก็บรักษายาฯ อยู่ที่แฟลตตำรวจเฉลิมลาก 3.น.ส.ณัฐพัชร์ นายทุน ผู้สั่งการ 4.นายปกรณ์ หน้าที่ ผู้ร่วมขบวนการ และ 5.นายอรขุน จันทรนาม ทำหน้าที่ ลูกค้าหรือสั่งยาซึ่งเชื่อมโยงกับผู้ต้องหาที่ถูกจับไปก่อนหน้านี้
ส่วนของกลางที่ยึดได้ที่วัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 มีดังนี้ Alprazolam 57,000 เม็ด, Zolpidem tartrate 16,100 เม็ด, Flunitrazepam 24,300 เม็ด และวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 4 มีClonazepam 63,000 เม็ด Clorazepate 10,000 เม็ด
รวมของกลางยาที่ตรวจยึดได้ 170,400 เม็ด และทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดอีก กว่า 400 ล้านบาท อยู่ระหว่างการตรวจสอบและดำเนินคดีฟอกเงินตามขั้นตอน
การปฏิบัติครั้งนี้ยังพบว่า มีข้าราชการตำรวจมีส่วนเกี่ยวข้อง ด้านพล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร.จึงสั่งให้ดำเนินการทางกฎหมายอย่างเด็ดขาด โดยไม่ละเว้นผู้มีตำแหน่งหน้าที่ พร้อมเร่งขยายผลสืบหาตัวผู้ร่วมขบวนการที่อาจยังหลบหนี หรือมีส่วนเกี่ยวข้องเพิ่มเติมในสายวิชาชีพทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่รัฐ
กรณีการนำชื่อผู้เสียชีวิตไปสวมสิทธิ์เพื่อรับ "ยาเสียสาว" นั้น นายกองตรี ดร.ธนกฤต เปิดเผยว่า เรื่องนี้อยู่ในระหว่างการสืบสวนที่ได้ดำเนินการมานานกว่า 2 เดือนแล้ว เนื่องจากข้อมูลที่ได้มายังเป็นข้อมูลใหม่ จึงต้องใช้เวลาในการสืบสวนเพื่อขยายผลต่อไปว่า แหล่งที่มาของชื่อผู้เสียชีวิตเหล่านี้มาจากที่ใดบ้าง และมีความเชื่อมโยงกับบุคคลใดอีกหรือไม่ นอกจากนี้ จะมีการประสานงานกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เพื่อตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติม โดยในรายชื่อผู้เสียชีวิตทั้ง 370 รายชื่อนั้น พบว่ามาจากคลินิกหลายแห่ง ซึ่งหลังจากถอดข้อมูลออกมาแล้ว จะมีการเรียกผู้เกี่ยวข้องมาสอบถามรายละเอียด เพื่อยืนยันว่าญาติของผู้เสียชีวิตเคยได้รับการรักษาอาการทางจิตเวชมาก่อนหรือไม่
เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามถึงกลุ่มเป้าหมายที่ได้รับการกระจายยาควบคุม พล.ต.ต.นพสิทธิ์ มิตรภักดี เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำเบื้องต้น พบว่ายาดังกล่าวถูกนำไปแจกจ่ายให้กับร้านขายยา และยังเชื่อมโยงกับเครือข่ายค้ายาเสพติดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการขยายผลเพิ่มเติม
ขณะที่ นพ.วิทิต ชี้แจงว่า การสั่งซื้อวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 เช่น Alprazolam ต้องดำเนินการผ่าน อย.ซึ่งเป็นผู้จำหน่ายแต่เพียงผู้เดียว และอนุญาตให้เฉพาะผู้มีใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมสั่งซื้อเพื่อนำไปใช้ในสถานพยาบาลที่ระบุไว้เท่านั้น โดยมีการกำหนดปริมาณขั้นสูงต่อปี หากไม่ใช่คลินิกรับผู้ป่วยค้างคืน แม้จะมีการสั่งซื้ออย่างถูกต้อง แต่พบว่ามียาบางส่วนไม่ได้นำไปใช้รักษาผู้ป่วยจริง กลับถูกนำไปขายต่อ เป็นเหตุให้เกิดการตรวจสอบและจับกุมในครั้งนี้
“ยาโซแลม” หรือ Alprazolam เป็นยาควบคุมที่ใช้รักษาโรควิตกกังวลและนอนไม่หลับตามใบสั่งแพทย์ ซึ่งมักถูกเข้าใจผิดว่าเป็น “ยาเสียสาว” แต่ความจริงแล้วยาเสียสาวคือวัตถุออกฤทธิ์ที่ถูกนำไปใช้มอมเหยื่อเพื่อก่ออาชญากรรม เช่น Flunitrazepam หรือ GHB ที่มีฤทธิ์กดประสาทแรงกว่าจนอาจทำให้หมดสติหรือความทรงจำหาย การเหมารวมว่าโซแลมคือยาเสียสาวจึงอาจเป็นการสร้างความเข้าใจผิด แม้จะสามารถถูกนำไปใช้ในทางผิดกฎหมายได้เช่นกันหากใช้โดยไม่มีใบสั่งแพทย์หรือเจตนาร้าย