นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่กองทัพภาคที่ 2 ขอเงินบริจาคซื้อลวดหนามบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ตนอยากทำความเข้าใจกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด จริง ๆ แล้วหากคิดว่างบประมาณไม่พอสามารถแจ้งไปที่ผู้บัญชาการทหารบก และกองทัพบกได้ รวมถึงตนเองได้มีการพูดคุยกับแม่ทัพทั้ง 3 เหล่าทัพ ตลอดว่าอะไรที่ขาด และจำเป็น
ขณะนี้ให้รีบยื่นขึ้นมาโดยรัฐบาลจะใช้งบกลางช่วยอย่างเต็มที่ แต่ก็ไม่เคยมีเรื่องนี้เสนอมา ทุกเรื่องที่ผ่านมาเราอนุมัติหมด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงบประมาณเกี่ยวกับกำลังพล และมองว่ายังไม่ต้องถึงขั้นขึ้นเพจขอรับเงินบริจาคกับประชาชน ซึ่งก็อาจทำให้เกิดความไม่เข้าใจ และรัฐบาลก็ไม่มีอะไรขัดขวาง
นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า อยากฝากไปยังแม่ทัพภาคที่ 2 ได้ทราบ ว่าอะไรที่ขาดจริงๆขอให้บอกมาเรามีงบประมาณให้อยู่แล้ว และเราได้บอกไปแล้วว่าอะไรที่สามารถเอาจากที่ไหนมาได้ก็ให้เอามาก่อน อะไรที่ขาดบอกมา ใช้วิธีพิเศษในการพิจารณาให้สามารถนำมาใช้ได้เลย ขอให้ได้ของเท่านั้น เรื่องนี้อาจทำให้เกิดความไม่เข้าใจกันได้ รัฐบาลยืนยันว่าอะไรที่ขณะนี้จะต้องสร้างความเข้มแข็งให้กับกำลังพล เพื่อรักษาอธิปไตยของประเทศวันนี้เราเปิดงบกลางให้ใช้อยู่แล้ว
เมื่อถามถึงการลาดตระเวนในการตรวจทุ่นระบิดจะต้องมีการเปลี่ยนวิธีหรือไม่? นายภูมิธรรม กล่าวว่า เรื่องนี้ตนเองขอความกรุณาจากพี่น้องประชาชนในการช่วยกันแก้ไขปัญหา เนื่องจากตนเองก็ไม่ได้รับความเป็นธรรมเหมือนกัน แต่อยู่ในฐานะหน้าที่ เราก็พยายามที่จะนิ่งให้ได้มากที่สุด
การที่บอกว่าตนเองไปเข้าข้างกัมพูชา บอกว่าเหตุการณ์ที่โรงพยาบาลเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ไม่จริง หากไปดูเทปทั้งหมดตนเองบอกว่า เรื่องนี้เป็นการยิงกันด้วยอาวุธ BM 21 ซึ่งออกมาทีนึงเป็นจำนวนมากและกระจัดกระจาย และไม่ใช่เป้าหมายทางการทหารนั่น หมายความว่าพลเรือน และโรงพยาบาลคือเป้าหมาย จึงขอร้องอย่านำไปบิดเบือนทำลายรัฐบาลจนทำให้ประชาชนไม่ไว้วางใจ และทำให้ประชาชนในประเทศเกิดความแตกแยกเป็นปัญหา
นอกจากนี้ นายภูมิธรรม ยังกล่าวถึงกรณีที่นักวิชาการทางการเมืองออกวิพากษ์วิจารณ์ ว่า ให้ตัดขาตนเองจะได้รู้ว่าหัวอกเป็นอย่างไรนั้น เดี๋ยวตนเองจะฟ้องทั้งหมด ยืนยันว่าตนเองไม่เคยคิดฟ้องใคร แต่คิดว่าเรื่องนี้ต้องทำให้ประจักษ์อย่างที่เคยทำ ซึ่งตนเองก็อยากให้สื่อช่วยด้วยในสิ่งที่ตนเองพูดไป หากไม่เช่นนั้นตนเองก็จะพูดในสิ่งที่ควรพูดเท่านั้นจะไม่พูดไปมากกว่านี้ เพราะเมื่อพูดไปก็เอาไปทำร้ายกัน บิดเบือน และตัดตอนบางส่วนจากคำพูด และไม่มีใครมาช่วยเหลือ ตนเองคิดว่าต้องทำให้เป็นธรรม ซึ่งเป็นสิ่งที่อยู่ในใจของตน ขณะนี้ตนเองกำลังให้ทนายดำเนินการฟ้องทั้งหมด และหลักฐานข้อมูลขณะนี้ได้เก็บรวบรวมไว้ทั้งหมดแล้ว
- คอนเทนต์พิเศษ
สำหรับคุณ - TOP สังคม
- วิดีโอยอดนิยม
