ทหารกัมพูชา ขี่รถ จยย. ป่วน – บีบแตรเสียงดัง ระหว่างคณะ IOT ลงพื้นที่ช่องสายตะกู

โดย PPTV Online

เผยแพร่

ทหารกัมพูชา ขี่รถ จยย. ป่วน – บีบแตรเสียงดัง ระหว่างคณะ IOT ลงพื้นที่ช่องสายตะกู ด้าน "พลจัตวาซัมซุล" เอ่ยปากชมไทยไม่มีข่าวเท็จ - ทำตามข้อตกลง

กองบัญชากรกองทัพไทย และกองทัพภาคที่ 2 นำคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว (Interim Observer Team : IOT) 3 ประเทศ ประกอบด้วย บรูไน, มาเลเซีย และสิงคโปร์ รวม 4 นาย นำโดย พลจัตวาซัมซุล ริซัล บิน มูซา (Pol. Col. Samsul Rizal Bin Musa) ผู้ช่วยทูตทหารมาเลเซีย ประจำประเทศไทย ในฐานะหัวหน้า IOT ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมสถานที่ควบคุมเชลยศึก อ.เมือง จ.สุรินทร์ ในช่วงเช้า จากนั้นคณะ IOT เดินทางต่อไปที่ช่องสายตะกู ต.จันทบเพชร อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ที่เป็นจุดผ่อนปรนทางการค้า 

ไทยกัมพูชา ผู้สื่อข่าว
ทหารกัมพูชา ขี่รถ จยย. ป่วน – บีบแตรเสียงดัง ระหว่างคณะ IOT ลงพื้นที่ช่องสายตะกู

มีรั้วกั้นระหว่างไทยและกัมพูชา อยู่ใกล้แนวเส้นปฏิบัติการ  จุดนี้ทหารในพื้นที่ได้สื่อสารและอธิบายแผนที่ให้คณะ IOT รับทราบถึงที่ตั้ง และสถานการณ์ในพื้นที่เป็นภาษาอังกฤษ ทั้งรายละเอียดของหลักหมุดเขตแดนที่ 24 (ช่องจันทร์แดง), หมุดที่ 25 (ช่องสายตะกู), และหมุดที่ 26 (ช่องจันทบเพชร) ซึ่งพบการก่อสร้างบ่อนกาสิโนขนาดใหญ่ 1 แห่ง หากอยู่ฝั่งไทยและมองลอดรั้วเข้าไปจะอยู่ด้านซ้ายมือ

ส่วนด้านขวาคือสายตะกูรีสอร์ท หากมองลอดรั้วจากฝั่งไทยเข้าไปจะเห็นตึกสแกมเมอร์ และตึกคอลเซนเตอร์อีกหนึ่งแห่ง เปิดเป็นที่พักของพนักงาน มีเสาสัญญาณพร้อม และถัดไปอีกจะถึงตลาดกัมพูชา ตั้งอยู่ห่างจากแนวรั้ว 600 เมตร

ตั้งแต่กองทัพภาคที่ 2 สั่งปิดด่าน เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. 2568 ก่อนเกิดการปะทะในช่วงวันที่ 24 ก.ค.ที่ผ่านมา พบว่าวันนี้ยังมีร่องรอยความเสียหายจากการยิง และระเบิด BM 21 ของกัมพูชาที่ยิงพุ่งเป้าเข้าไปในชุมชนเช่น สภาพตู้คอนเทนเนอร์ในฝั่งไทย ที่มีร่องรอยกระสุนปืน ซึ่งเป็นตู้สำหรับขออนุญาตผ่านแดน และยังมีร่องรอยกระจกที่แตกกระจายจากการยิงของฝั่งกัมพูชา ทั้งที่ก่อนหน้านี้ชาวบ้านทั้ง 2 ประเทศ อยู่กันแบบครอบครัวมาก่อน

คณะ IOT ได้รับฟังบรรยายสรุปและเดินสำรวจพื้นที่ สังเกตดูบ่อนกาสิโนขนาดใหญ่ที่กำลังก่อสร้าง ก่อนถามถึงความเป็นมา และทราบข้อมูลว่าบ่อนแห่งนี้ สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 2554 มีความสูง 7 ชั้น สร้างภายใต้ชื่อสายตะกูรีสอร์ท เปิดเป็นโรงแรม บ่อนกาสิโน และคอลเซนเตอร์ พุ่งเป้าหลอกคนทางออนไลน์ สร้างรายได้มหาศาล ซึ่งการก่อสร้างตึกแห่งนี้ห่างจากแนวหลักหมุดเขตเพียง 125 เมตร แสดงให้เห็นว่ากัมพูชา กำลังละเมิด MOU43 คือก่อสร้างตึกใกล้หลักหมุดเขตแดน ทั้ง ๆ ที่ความจริงตามหลักคือห้ามปรับปรุงสภาพภูมิประเทศให้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม

จากข้อมูลยังทราบชื่อเจ้าของตึกคือ “ออกญาลึม เฮง” นักธุรกิจใหญ่กัมพูชา เจ้าของบ่อนสายตะกูและเป็นระดับที่ปรึกษาของ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา จากนั้นคณะ IOT ได้เดินไปดูร่องรอยความเสียหายของตู้คอนเตอร์ ที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 200 เมตร และ ได้เข้าไปพูดคุยข้อมูลกับกองทัพภาคที่ 2 เป็นการส่วนตัวภายในห้องรับรอง โดยตลอดการลงพื้นที่ของคณะฯ พบว่าฝั่งกัมพูชามีคนขี่รถมอเตอร์ไซต์ บีบแตรเสียงดังตลอดเวลา ลักษณะมาก่อกวนในช่วงที่คณะ IOT ลงพื้นที่ และจากการสังเกตเห็นว่ามีเด็กและทหารฝั่งกัมพูชาถือ โทรศัพท์ถ่ายรูปทีมสื่อมวลชนของไทยและคณะฯ IOT ด้วย

ไทยกัมพูชา ผู้สื่อข่าว
ทหารกัมพูชา ขี่รถ จยย. ป่วน – บีบแตรเสียงดัง ระหว่างคณะ IOT ลงพื้นที่ช่องสายตะกู

จากนั้น พลจัตวา ซัมซุล ได้ให้สัมภาษณ์ว่า “หลังจากที่ได้ลงพื้นที่เพื่อสังเกตการณ์มาตลอดทั้ง 2 วัน ภายใต้การกำกับดูแลของกองทัพภาคที่ 2 สิ่งที่มีความสำคัญคือการเสริมสร้าง และการใช้ความร่วมมือทวิภาคีที่ตกลงกันภายใต้การประชุม RBC , GBC และ JBC แต่จะต้องมีความจริงใจและความเชื่อมั่นระหว่างกัน"

การปฏิบัติตามข้อตกลงการหยุดยิงเป็นสิ่งที่ต้องทำ เพื่อลดความตึงเครียด และเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น รวมถึงการที่จะทำให้การตกลงหยุดยิงนั้นเกิดผล ทางคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราวของทั้ง 2 ประเทศ จึงต้องลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบ และสังเกตการณ์การปฎิบัติตาม โดยคณะฯ ยังหวังว่า JBC จะเกิดขึ้นโดยเร็ว

ส่วนการรายงานความคืบหน้า คณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราวทั้งฝั่งไทยและกัมพูชา ได้ลงพื้นที่เพื่อยืนยันและส่งรายงานไปยังกองบัญชาการ เมื่อกองบัญชาการได้รับรายงานแล้วก็จะนำรายงานดังกล่าว นำเรียนไปยังผู้บัญชาการทหารสูงสุด ของกองทัพมาเลเซีย ซึ่งเป็นหัวหน้าทีมให้ได้รับทราบ จากนั้นจะรายงานไปยังผู้บัญชาการทหารสูงสุดของกองบัญชาการกองทัพไทยและกัมพูชา เพื่อเสนอแนะว่าควรทำอย่างไร และไม่ควรทำอะไรบ้าง เพื่อคงไว้ซึ่งความมั่นคงและคงไว้ตามข้อปฏิบัติการหยุดยิง

และแม้การลงพื้นที่ร่วมกันระหว่าง IOT ของทั้ง 2 ฝ่าย ยังไม่ได้เกิดขึ้น แต่ทั้ง 2 ฝ่ายได้พูดคุยและประสานงานกันตลอดว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้าง ซึ่งเป้าหมายของคณะฯ คือเพื่อสังเกตการณ์และเพื่อตรวจสอบในพื้นที่จริง เมื่อได้ข้อเท็จจริงหรือการยืนยันแล้ว ก็จะรายงานให้สังคมโลกได้ทราบ และอีกประเด็นที่สำคัญคือคุณภาพในการลงพื้นที่ มีค่ามากกว่าการลงพื้นที่บ่อยหรือไม่บ่อย และวันนี้ที่ลงพื้นที่ได้รับทราบข้อมูลจากทหารแนวหน้า

ไทยกัมพูชา ผู้สื่อข่าว
ทหารกัมพูชา ขี่รถ จยย. ป่วน – บีบแตรเสียงดัง ระหว่างคณะ IOT ลงพื้นที่ช่องสายตะกู

พร้อมชื่นชมกองทัพบกที่ปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างดี และชื่นชมฝ่ายไทยที่ปฎิบัติการโดยไม่มีการให้ข้อมูลเท็จ ไม่มีการใช้อาวุธเพิ่มเติมหรือเสริมกำลัง และการรักษาไว้ซึ่งความเป็นทหารอาชีพ และคุณภาพของการปฏิบัติการ ตั้งแต่ระดับพลทหาร ไปจนถึงระดับผู้บังคับบัญชา เพื่อให้การปฎิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงเป็นไปตามที่ได้ตกลงไว้ รวมถึงกฎการปะทะและศีลธรรมที่ได้คุยกันไว้

พลจัตวาซัมซุล ยังย้ำว่า “พวกเราคือหนึ่งในประเทศประชาคมอาเซียน เราปฏิบัติตามแนวทางของอาเซียน  และอาเซียนเองก็เชื่อในความร่วมมือของทวิภาคี พวกเราคือครอบครัว พวกเราไม่ได้ต้องการที่จะอวดเบ่งให้กับใคร "

ผู้สื่อข่าวถามถึงการลงพื้นที่ช่องบก จ.อุบลราชธานี และช่องสายตะกู จ.บุรีรัมย์ ตลอด 2 วันที่ผ่านมา ว่าได้เห็นอะไรที่เป็นประโยชน์ และจะนำกลับไปรายงานให้หน่วยเหนือได้ทราบบ้าง? พลจัตวา ซัมซุล บอกว่า ในระหว่างการลงพื้นที่ทั้ง 2 วัน คือการเห็นทหารไทยยังคงอยู่ในที่มั่นของตัวเองเหมือนเดิม ไม่ได้เสริมกำลังหรืออะไรเลย ถือเป็นการปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงที่ได้คุยกันไว้ในที่ประชุม และยืนยันว่า เมื่อลงพื้นที่เสร็จแล้ว คณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราวจะส่งรายงานกลับไปยังกองบัญชาการทุกวัน ทุกสัปดาห์และทุกเดือน

 

พลจัตวาซัมซุล ทิ้งท้ายด้วยการขอบคุณสื่อมวลชน ที่ทำหน้าที่ได้อย่างดี และย้ำว่าเรายังคงรอผลของ GBC และ JBC และสุดท้าย ยังเชื่อมั่นว่าทั้ง 2 ประเทศล้วนต้องการสันติภาพให้บังเกิดขึ้น

สำหรับช่องสายตะกู เป็นจุดผ่อนปรนทางการค้าชายแดน ช่องสายตะกู-จุ๊บโกกี ชายแดนไทย-กัมพูชา เดิมทีเคยเป็นตลาดการค้าชุมชมของทั้ง 2 ประเทศ เปิดทุกวันเวลา 09.00-15.00 น. ปกติจะมีประชาชนไม่ต่ำกว่า 300 คน ข้ามแดน แต่จะมีเงื่อนไขอนุญาตเฉพาะชาวบ้านในพื้นที่ อ.บ้านกรวด ข้ามผ่านไปมา เพื่อจับจ่ายซื้อของและแลกเปลี่ยนสินค้าชุมชนระหว่างประเทศเท่านั้น ห้ามคนนอกพื้นที่ อ.บ้านกรวด ข้ามด่านไป โดยเจ้าหน้าที่จะขอดูบัตรประจำตัวประชาชน ซึ่งต้องเป็นคนที่มีภูมิลำเนา อ.บ้านกรวด เท่านั้น ส่วนตลาดชุมชนฝั่งไทยจะขายสินค้าจำพวกอุปโภค-บริโภค ฝั่งกัมพูชาจะขายบุหรี่ สุรา หรือสินค้าผิดกฎหมาย โดยตั้งอยู่ห่างจากแนวรั้วประมาณ 600 เมตร

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

PPTVHD36

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ